
เริ่มแล้ว! หน้าร้อน กรมอุตุฯเปิดภาพคาดการณ์อุณหภูมิที่จะเกิดขึ้นในช่วง “ฤดูร้อน” ของประเทศไทยที่จะเริ่มตั้งแต่ 28 ก.พ. นี้เป็นต้นไป คาดช่วงแรก 26 ก.พ. – 5 มี.ค.นี้ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 37-39 องศาเซลเซียส แต่ร้อนจัด 40 องศาขึ้นไปอาจมีแค่บางพื้นที่ ส่วนกทม. และปริมณฑลร้อนสุด 36 – 38 องศา
กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยข้อมูลคาดการณ์อุณหภูมิที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยที่จะเริ่มเข้าหน้าร้อนตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า จากข้อมูลของ ECMWF init.2025022512 : อากาศร้อนจะเริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ ใน กทม. ปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันออก อีสานตอนกลาง และตอนล่าง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ยังร้อนช้ากว่าบริเวณอื่น ๆ
แต่ในวันที่ 28 ก.พ. 2568 ประเทศไทยจะมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ แต่ร้อนจัด (ตั้งแต่ 40.0 ซ. ขึ้นไป) อาจจะยังมีบางจุด (เฉดสีขาวถึงสีเทา อุณหภูมิ ตั้งแต่ 37 – 39 ซ.) (ดูกราฟิกประกอบ)
สำหรับการคาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม 2568 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนได้น้อยลง
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยลง และจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนตอนกลางวัน แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้าในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร ตลอดช่วง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง

คาดหมายอากาศรายภาค
วันที่ 26 ก.พ.– 4 มี.ค. 68
ภาคเหนือ สูงสุด 38 องศา
ในช่วงวันที่ 27 ก.พ. – 4 มี.ค. อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 38 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 – 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สูงสุด 36 องศา
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 26 ก.พ. – 1 มี.ค. อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 18 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 4 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ภาคกลาง สูงสุด 37 องศา
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคตลอดช่วง มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 37 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 26 ก.พ. – 1 มี.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 4 มี.ค. ลมใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก สูงสุด 37 องศา
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 26 ก.พ. – 1 มี.ค. มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 36 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 4 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 26 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) สูงสุด 33 องศา
ในช่วงวันที่ 27 ก.พ. – 1 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 4 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 33 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) สูงสุด 34 องศา
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 34 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 27 ก.พ. – 1 มี.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 4 มี.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
กรุงเทพฯและปริมณฑล สูงสุด 37 องศา
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 26 ก.พ. – 1 มี.ค. มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 4 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 – 38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
(ออกประกาศ 26 กุมภาพันธ์ 2568 12:00 น.)