รายงานข่าวจากแหล่งข่าวในกระบวนการยุติธรรม แจ้งถึงความคืบหน้ากรณีพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ฯ ที่หลบหนีไปเยอรมนีนั้นว่า ได้เข้าสู่ขั้นตอนของการขอพิจารณาลี้ภัยในประเทศเยอรมนีเเล้ว จึงย่อมมีสิทธิได้รับความคุ้มครอง ตามหลักเกณฑ์การขอลี้ภัยที่จะมีผลเริ่มคุ้มครองทันที การที่มีข่าวว่าจะมีการประสานขอความร่วมมือกับทางตำรวจสากลเพื่อขออออกหมายจับหรือขอส่งตัวพระพรหมเมธีกลับประเทศไทยในขณะนี้นั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ตัวพระพรหมเมธีจะถูกส่งตัวกลับ เเม้หากมีการประสานขอความร่วมมือกับตำรวจสากล จริงๆ อีกทั้งการที่ดำเนินการลักษณะนี้อาจจะส่งผลทำให้เกิดข้อพิรุธสงสัยว่าคดีที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตระดับชาติ ถ้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานไป จะมีส่วนทำให้สำนักงานผู้ลี้ภัยของเยอรมนีมองว่าเป็นเรื่องการเมืองได้อีกด้วย
ข่าวแจ้งว่า สำหรับการตามตัว พระพรหมเมธี โดยใช้วิธีส่งผู้ร้ายข้ามเเดนนั้น วิธีดังกล่าวก็มีโอกาสยากมากที่จะประสบความสำเร็จ เนื่องจากพระพรหมเมธียังติดอยู่ขั้นตอนผู้ลี้ภัยอยู่ รวมถึงประเทศไทยไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามเเดนกับทางเยอรมนี เมื่อไม่มีสนธิสัญญาดังกล่าวก็จะต้องกระทำโดยวิธีทางการทูต หรือ การใช้หลักเเลกเปลี่ยนต่างตอบเเทน ซึ่งประเทศไทยกับเยอรมนีไม่เคยทำกันมาก่อน ทำให้วิธีการขั้นตอนอาจจะยากยิ่งกว่าการส่งผู้ร้ายข้ามเเดน
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค.2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
“เมื่อได้เข้าหลักเกณฑ์ลี้ภัยเเล้ว ขั้นตอนส่งผู้ร้ายข้ามเเดนหรือความร่วมมือต่างตอบเเทน ให้ตัดทิ้งไปเลย การที่มีโอกาสที่จะได้ตัวพระพรหมเมธีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าทางการเยอรมนีจะอนุมัติให้ลี้ภัยหรือไม่เท่านั้น เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับศาล เป็นเรื่องของสำนักงานลี้ภัยเยอรมันเป็นผู้ดูเเลซึ่งคงต้องรอขั้นตอนอนุมัติหรือไม่ใน2เดือน เเละยังมีระยะเวลาอุทธรณ์อีก”แหล่งข่าวระบุ