สธ.ลุยจับปรับดาราโพสต์เหล้าส่อเอี่ยวโฆษณา เตรียมเรียกอีก 15 คนเปิดชื่อ ไม่ได้เว้น จนท.ตำรวจ

นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช

วันที่ 7 สิงหาคม 2560 นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีดาราโพสต์รูปคู่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า เบื้องต้นที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปสำนวนและทางดาราที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ มีการยอมรับว่ามีการทำผิดในมาตรา 32 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ปรับไม่เกิน 500,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ มีทั้งสิ้น 9 ราย โดยมี 2 รายที่อาจมอบหมายให้ทนายความส่วนตัวมาทำการจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 50,000 บาท ได้แก่ นายวิเชียร กุศลมโนมัย หรือดีเจเพชรจ้า และ น.ส.หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์ หรือนิวเคลียร์ ส่วนอีก 7 รายที่ขณะนี้รอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งเรื่องมาให้ทางสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อทำการเทียบปรับ และเมื่อปรับเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะทำการส่งเรื่องกลับไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการปิดคดี ซึ่งเมื่อถึงกระบวนการดังกล่าวก็เป็นอันสิ้นสุดคดี

นพ.นิพนธ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ยังมีดาราอีกประมาณ 15 รายที่กำลังตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ซึ่งต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้เปิดเผยชื่อต่อไป ส่วนทั้ง 9 รายที่มีกล่าวโทษไปแล้วมีการทำผิดซ้ำรอบที่ 2 จะมีโทษปรับ 2 แสนบาท และหากยังทำผิดซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 3 ก็จะโดนโทษปรับสูงถึง 5 แสนบาท เท่ากับบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการดูว่าผู้ใดเข้าข่ายมาตรา 32 หรือไม่นั้นต้องดูตามองค์ประกอบของภาพว่าเข้าข่ายการโฆษณาหรือไม่ โดยในเรื่องการพิจารณานั้นจะมีคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งประกอบด้วยหลายวิชาชีพเป็นผู้พิจารณา หากเข้าข่ายก็จะทำการกล่าวโทษต่อไป ส่วนในประชาชนทั่วไปหากได้ทำการตลาดให้ใคร ภาพถ่ายที่ออกมาก็จะมีองค์ประกอบภาพที่ไม่ครบ แต่ก็อยากให้ประชาชนระวังในเรื่องการโพสต์ หรืออย่าโพสต์เชิญชวนใครดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ขณะนี้พบเครื่องหมายการค้าผลิตภัณฑ์น้ำดื่มและเครื่องหมายการค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความใกล้เคียงกัน ยากแก่การแยกประชาสัมพันธ์แบรนด์ อาจทำให้ประชาชนสับสนอย่างมีนัยยะสำคัญ จะมีการดำเนินการอย่างไร นพ.นิพนธ์กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เพราะเป็นเรื่องของเครื่องหมายการค้า ในส่วนตัวเห็นว่า ในอนาคตเชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องเกิดปัญหาอย่างแน่นอน เนื่องจากการจำแนกแบรนด์หรือตราสินค้าในการโฆษณาอาจสร้างความสับสนหรือตีความว่าเป็นการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือโฆษณาเครื่องดื่มปกติหรือไม่

 

ที่มา : มติชนออนไลน์