กรมอุตุฯเตือน 7-8 มี.ค.นี้ เฝ้าระวัง “พายุฤดูร้อน” เป็นพิเศษ มาเร็ว-แรง

ฝน ฝน ฝนตก

กรมอุตุฯพยากรณ์อากาศ 15 วันล่วงหน้า เตือนช่วง 7-8 มี.ค.นี้ ต้องเฝ้าระวัง “พายุฤดูร้อน” เป็นพิเศษ มาเร็ว และแรง และอาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ เหตุลมเปลี่ยนทิศ มวลอากาศเย็นปะทะกับอากาศร้อน ส่งผลเกิดฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตก กระทบหลายพื้นที่ รวม กทม.และปริมณฑล

กรมอุตุนิยมวิทยาอัพเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุก ๆ 24 ชม. (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 7-21 มี.ค. 68 init. 2025030612 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลอง เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย (แม้เฉดสีที่ให้ปริมาณฝนเล็กน้อย แต่ฝนที่เกิดขึ้นช่วงนี้จะมีลักษณะเป็นพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรง ต้องเฝ้าระวังและหมั่นสังเกต)

ช่วงวันที่ 7-8 มี.ค. 68 เป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ลมเปลี่ยนทิศทางเนื่องจากยังมีมวลอากาศเย็นกำลังปานกลาง แผ่ลงมาปกคลุมทางด้านตะวันออกของภาคอีสาน ลมตะวันออก ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บ เกิดขึ้นในระยะแรก

โดยเริ่มทางภาคอีสาน ภาคตะวันออก พื้นที่เสี่ยงฝนฟ้าคะนองระดับปานกลางได้แก่ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง เสี่ยงสูงได้แก่ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล ต้องระวังพายุฤดูร้อน เกษตรกรต้องเฝ้าระวังผลผลิตทางการเกษตร ต้องเร่งเสริมความแข็งแรงให้กับไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต อาจส่งผลกระทบเกิดความเสียหายได้โดยเฉพาะพื้นที่ในภาคตะวันออก

ช่วงวันที่ 9-15 มี.ค. 68 ยังมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางแห่งบริเวณประเทศไทยตอนบน เนื่องจากมวลอากาศเย็นจากทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิกแผ่ปกคลุม ทำให้มีลมตะวันออกยังพัดปกคลุมประเทศไทย มีกำลังปานกลาง ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น เป็นฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ช่วงวันที่ 16-21 มี.ค. 68 ยังมีมวลอากาศเสริมลงมาอีกระลอกทางด้านภาคอีสาน ทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ช่วงแรก ๆ จากทิศทางลมที่แปรปรวน ฤดูร้อนปีนี้คาดว่าอากาศจะไม่ร้อนแรงเหมือนปีที่แล้ว จะมีฝนฟ้าคะนอง พายุฤดูร้อนมาสลับในบางวัน ต้องระวังพายุฤดูร้อน มาเร็ว แรง อาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ADVERTISMENT

(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ) เป็นข่าวที่ยังต้องติดตามเป็นระยะ ๆ #ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม #กรมอุตุนิยมวิทยา

ADVERTISMENT

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย
06.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น.วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 15-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร พัทลุง สงขลา ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพฯและปริมณฑล

อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ออกประกาศ 07 มีนาคม 2568