แจกเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 3 กลุ่มแรก 2.7 ล้านคน อายุ 16-20 ปี ได้ก่อน

แจกเงินเงินดิจิทัลเฟส 3 กลุ่ม 16-20ปี

แจกเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 3 กลุ่มแรก 2.7 ล้านคน ช่วงอายุ 16-20 ปี ได้ก่อน เหตุเป็นกลุ่มที่มีความตื่นรู้ทางด้านเทคโนโลยีสูง และมีความสามารถในการใช้จ่ายในรูปแบบนี้สูงกว่ากลุ่มอื่น เผยสามารถซื้อสินค้า-ใช้จ่ายได้ทุกอย่าง รวมทั้งค่าเทอม ค่าน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านค้าสามารถถอนเป็นเงินสดออกมาได้ ส่วนกลุ่มอื่น-รวมถึงกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนรออีกนิด

“ประชาชาติธุรกิจ” เกาะติดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการแจกเงิน 10,000 บาท หรือโครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเลต เฟส 3 ซึ่งเป็นการแจกเงินให้กลุ่มที่มีอายุ 16-59 ปี ที่ไม่ติดเงื่อนไขการครอบครองทรัพย์สิน และมีรายได้ตามเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนด ประมาณ 15 ล้านคน คาดว่าจะใช้เม็ดเงินราว 1.5 แสนล้านบาท

แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร

ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ระยะที่สามว่า วันนี้ที่ประชุมได้มีการเสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ระยะที่สาม เพื่อเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ที่มีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในประเทศ

โดยที่กลุ่มเป้าหมายจะเป็นผู้ลงทะเบียนผ่าแอปพลิเคชั่นทางรัฐ มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี และจะต้องใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ เพื่อสแกน QR Code ณ ร้านค้าในพื้นที่เขตหรืออำเภอที่ประชาชนมีอยู่ตามทะเบียนบ้าน

“ดิฉันได้เน้นย้ำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเครื่องยนต์สำคัญอย่างการท่องเที่ยว ที่จะต้องดำเนินต่อไปตามแผนงาน และมีแผนงานใหม่ที่มุ่งไปยังกลุ่ม Luxury เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่อหัวมากขึ้น” น.ส.แพทองธารกล่าว

การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568
การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568

อีกเรื่องที่สำคัญคือกลุ่มการเกษตร ที่จะต้องพัฒนากระบวนการเกษตรทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา การส่งออกสินค้าเกษตร และดูแลราคาสินค้าเกษตรให้เป็นธรรมหรือสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องเกษตรกร และทำให้รายได้ประเทศสูงขึ้นด้วย

ADVERTISMENT

“เศรษฐกิจในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มฟื้นตัวตามลำดับ โดยมีการบริโภค การส่งออก และการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยในปีนี้ กระทรวงการคลังประมาณการว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะเติบโตได้ 3% แต่รัฐบาลเชื่อว่า ด้วยศักยภาพเศรษฐกิจไทย การร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ตัวเลขเศรษฐกิจน่าจะเติบโตได้มากกว่า 3%” นายกรัฐมนตรีกล่าวและว่า

วงประชุมวันนี้จึงเป็นวงที่เรามาร่วมกันคิด เสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการรับผิดชอบของหน่วยงานต่าง ๆ และอยู่ในกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และร่วมกันวางโครงสร้างในระยะยาวไปพร้อม ๆ กัน

ADVERTISMENT

ทางด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงร่วมกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ภายหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 1/2568 ที่มี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า

ที่ประชุมเห็นชอบโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต เฟส 3 โดยเรียกว่าเฟสที่ 1 เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ใช้ระบบดิจิทัลวอลเลต โดยจะจ่ายในปลายไตรมาส 2 ถึงต้นไตรมาส 3 ของปี 2568 ให้กับกลุ่มที่ลงทะเบียนไว้แล้ว มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี ซึ่งอยู่ในกลุ่มวัยเรียน เนื่องจากสามารถที่จะช่วยพ่อแม่ได่ สำหรับกลุ่มอายุ 20-60 ปี จะต้องขอไปดูกันอีกทีว่าจะต้องแบ่งอย่างไร

“โครงการดิจิทัลวอลเลตเป็น เฟส 1 มีข้อดีเยอะ ซึ่งระบบอาจจะลำบากในการสร้าง แต่ถ้าเทียบกับการให้เงินอุดหนุนอื่น ๆ ซึ่งดิจิทัลวอลเลตสามารถกำหนดการใช้จ่ายได้ ทั้งเรื่องร้านค้า พื้นที่ ทำให้การเติมเงินสู่ระบบเป็นไปตามที่เราต้องการ ทำให้เรารู้ว่าชีวิตความเป็นอยู่ของคนในประเทศนี้เป็นอย่างไร นำไปวางแผนอื่น ๆ ได้อีก ถือเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล” นายพิชัยกล่าว

ใช้จ่ายได้ทุกอย่าง-ร้านค้าถอนเงินสดได้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ กล่าวเสริมว่า สำหรับการใช้จ่ายเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต ในกลุ่มอายุตั้งแต่ 16-20 ปี ครั้งนี้ รัฐบาลได้ตัดเงื่อนไขเดิมออก เช่น ตัดรายการสินค้าต้องห้าม หรือ Negative List ออกทั้งหมด เพื่อให้สามารถใช้จ่ายได้สะดวกขึ้น โดยเปิดให้ใช้จ่ายค่าเทอม ค่าน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ รวมทั้งยังเปิดให้ร้านค้าทุกประเภทสามารถถอนเงินสดออกมาได้อีกด้วย ไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มที่เสียภาษี ส่วนกรอบระยะในการใช้ยังคงเป็นอําเภออยู่

สำหรับไทม์ไลน์ของโครงการนั้น ขั้นตอนต่อจากนี้จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็ว ๆ นี้ ก่อนจะเริ่มต้นโครงการเร็วที่สุด คือไตรมาสที่ 2 หรือต้นไตรมาสที่ 3 ปี 2568

ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล กล่าวว่า กลุ่มอายุตั้งแต่ 16-20 ปี ที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต มีจำนวนอยู่ที่ 2.7 ล้านคน โดยกลุ่มนี้มี Digital Adoption สูง หรือเป็นกลุ่มที่มีความตื่นรู้ทางด้านเทคโนโลยีสูง และความสามารถในการใช้จ่ายในรูปแบบนี้สูงกว่ากลุ่มอื่น

ส่วนกลุ่มต่อไป ยืนยันว่ารัฐบาลได้เตรียมเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ 1.5 แสนล้านบาท ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่ต้องใช้จ่ายในไตรมาส 3

“เรามีช่วงที่ต้องใช้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ เพราะว่าเป็นเรื่องของงบประมาณ เพราะฉะนั้นก็มีกระสุนเตรียมไว้เพียงพอ รัฐบาลต้องใช้เงินอย่างคุ้มค่า ทุกบาททุกสตางค์ ในทุกเวลาที่เหมาะสม” นายเผ่าภูมิกล่าว

ส่วนกลุ่มที่ไม่มีโมบาย (สมาร์ทโฟน ) นายพิชัยกล่าวว่า เราจะจัดกลุ่มนี้ในการช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการอยากเน้นว่า การใช้ดิจิทัลเฟสนี้เพื่อวางรากฐานในอนาคต

กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน รอลงทะเบียน

ก่อนหน้านี้ นายเผ่าภูมิกล่าวถึงการพิจารณากลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนว่า ตอนนี้อยู่ในการพิจารณาเงื่อนไข ว่าจะเปิดลงทะเบียนในช่วงเวลาไหน และจะใช้เงื่อนไขอะไรวัดกลุ่มคนไม่มีสมาร์ทโฟน สำหรับกลุ่มคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจะเปิดให้ลงทะเบียน ประชาชนสามารถเดินทางไปลงทะเบียนผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ช่วยลงทะเบียนให้ ดังนี้

  • ธนาคารออมสิน
  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
  • ไปรษณีย์ไทย

เช็กเงื่อนไขกลุ่มคนทั่วไป เฟส 3

คนลงทะเบียนแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ยืนยันตัวตน

-ประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน

-สัญชาติไทย

-อายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ก่อนวันที่ 16 ก.ย. 2567)

-ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท (สำหรับปีภาษี 2566)

-ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)

-ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ

-ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ

-ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ

ตรวจสอบสิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท บนแอปทางรัฐ

1.เปิดแอปทางรัฐ เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย จากนั้นกดปุ่มตรวจสอบสถานะ

2.ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล และขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้กดปุ่มยืนยันข้อมูล

3.กรอกเบอร์โทรศัพท์และกดปุ่มรับรหัสทาง SMS (OTP)

4.กรอกรหัส OTP และกดปุ่มยืนยันโทรศัพท์มือถือ

5.กดปุ่มอนุญาต ให้แอปพลิเคชั่นเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

6.ระบบจะแสดงผลสถานะในการรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่าอยู่ในขั้นตอนใด หากอยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ หากอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือไม่ได้รับสิทธิ หากอยู่ในขั้นตอนที่ 5 คือได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท