
สุริยะ เสียใจเหตุคานก่อสร้างทรุดตัว เผยผู้เสียชีวิต รายละไม่ต่ำกว่า 1 ล้าน ยันโครงการทั้งหมดเสร็จก่อนสิ้นปี 68 แน่นอน ลั่นก่อน เม.ย. มาตรการสมุดพกผู้รับเหมาเริ่มใช้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัวจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส จำนวน 24 ราย และเสียชีวิต 5 ราย ว่า ผู้เสียชีวิต เป็นคนไทย จำนวน 3 ราย เป็นวิศวกร 1 ราย คนงาน 2 ราย และคนงานต่างด้าว 2 ราย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง แสดงความห่วงใยต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้ ผู้รับเหมาจะดำเนินการจ่ายชดใช้ค่าเสียหายและค่าเยียวยาให้แก่ผู้เสียชีวิต รายละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท พร้อมกับสั่งให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พิจารณาแนวทางเยียวยาให้ตามความเหมาะสมด้วยเช่นกัน
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการ นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมทั้งกำหนดแนวทางด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด
สำหรับมาตรการสมุกพกผู้รับเหมา ขณะนี้ได้หารือกับกรมบัญชีกลาง คาดว่ามาตรการจะออกได้ชัดเจนภายในเดือน เม.ย. 68 ดังนั้น หากพบผู้รับเหมากระทำความผิด จะสั่งให้หยุดรับงานทันที และไม่สามารถประมูลงานได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ และหลังจากนั้นจะพิจารณาออกมาตรการจัดการผู้ควบคุมงาน เพื่อให้มีบทลงโทษเช่นเดียวกับมาตรการสมุดพกผู้รับเหมา
นายสุริยะ กล่าวย้ำว่า สำหรับภาพรวมทุกโครงการก่อสร่างบนถนนพระราม 2 ยังคงยืนยันว่า จะแล้วเสร็จทั้งหมดก่อนสิ้นปี 2568 อย่างแน่นอน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้การสัญจรได้อย่างสะดวกตลอดเส้นทาง
ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับข้อสั่งการ จากนายสุริยะ ให้เร่งดำเนินการกู้คืนพื้นที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเปิดใช้บริการทางพิเศษช่วงดาวคะนองถึงด่านสุขสวัสดิ์ฝั่งขาเข้าเมือง โดยต้องมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับสูง โดย กทพ. ได้ตั้งเป้าเปิดใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ที่ด่านดาวคะนองขาเข้า ภายใน 7 วัน ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ตรวจสอบความปลอดภัยของโครงสร้างสะพาน และควบคุมการรื้อย้ายซากปรักหักพังอย่างเข้มงวด
โดยทางพิเศษเฉลิมมหานครฝั่งขาออกมุ่งหน้าทางแยกต่างระดับดาวคะนองที่ได้รับความเสียหาย กทพ. จะเร่งดำเนินการซ่อมแซม ให้สามารถเปิดให้บริการได้ภายใน 30 วัน
ขณะนี้ กทพ. ได้สั่งให้ผู้รับจ้างหยุดปฏิบัติงานเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อเร่งสรุปสอบสวนหาสาเหตุและเมื่อได้ข้อเท็จจริงแล้วจะแจ้งให้ประชาชนทราบถึงสาเหตุและมาตรการแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกต่อไป