กรมอุตุฯ เตือน 17-22 มี.ค.นี้ มวลอากาศเย็นแผ่เสริม ระวัง “เย็นลงวูบวาบ”

กรมอุตุนิยมวิทยา 7 วันข้างหน้า เตือนช่วง 17-22 มีนาคม 2568 อากาศยังแปรปรวน เหตุมวลอากาศเย็นจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมทางภาคอีสานของไทย ปะทะกับอากาศร้อน ส่งผลมีความรู้สึก “เย็นลงวูบวาบ” ฝนน้อยลง แต่ลมแรง ยังมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางพื้นที่ และหลังจาก 23 มี.ค. อากาศจะกลับมาร้อนถึงร้อนจัดอีกครั้ง

กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุก ๆ 24 ชม. (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 17-31 มี.ค. 68 init. 2025031612 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลอง เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย

สำหรับช่วงวันที่ 17-22 มี.ค. 68 สภาพอากาศยังมีความแปรปรวน เนื่องจากยังมีมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรง แผ่เสริมลงมาอีกระลอกทางด้านภาคอีสาน (มวลอากาศเย็นยังมาเป็นระยะ ๆ ในช่วงฤดูร้อน) ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำยังปกคลุมบริเวณภาคเหนือ เกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็นและอากาศร้อน ทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม. ปริมณฑลและภาคใต้ตอนบน

วันที่ 17 มี.ค. 68 เป็นอีกวันที่ต้องระวังพายุฤดูร้อนและลมแรง หลังจากนั้น บริเวณประเทศไทยตอนบนจะอากาศเย็นลงถึง 22 มี.ค. 68 จะมีความรู้สึกเย็นลงวูบวาบเพราะเดิมมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยเฉพาะภาคอีสานจะลดลงมากกว่าภาคอื่น ๆ 5-8 ซ. มีลมแรง ฝนน้อยลง แต่ยังมีเกิดฝนได้บ้างบริเวณภาคใต้ และในอ่าวไทย กลางวันพอจะคลายความร้อนลงได้บ้าง อากาศเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ต้องเฝ้าระวัง รักษาสุขภาพโดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง อากาศแห้ง ลมแรง ระวังอัคคีภัย

ในช่วงวันที่ 18-20 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวคลายความร้อนลง โดยอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง แต่ยังคงมีพายุฝนฟ้าคะนองในภาคเหนือ สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ADVERTISMENT

สำหรับพื้นที่ของกรุงเทพฯและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 18-20 มี.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. อากาศร้อนกับมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ADVERTISMENT

ช่วงปลายเดือน (23-31 มี.ค. 68) อากาศจะเริ่มกลับมาร้อนถึงร้อนจัดอีกครั้ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ลมใกล้ผิวพื้นเปลี่ยนกลับมาเป็นลมทิศใต้ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้เป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะช่วง 26-29 มี.ค. 68 จากกระแสลมฝ่ายตะวันตกที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง

กรมอุตุฯระบุว่า ฤดูร้อนปีนี้คาดว่าอากาศจะไม่ร้อนแรงเหมือนปีที่แล้ว จะมีฝนฟ้าคะนอง พายุฤดูร้อนมาสลับในบางวัน ต้องระวังพายุฤดูร้อนมาเร็ว แรง อาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 18-20 มี.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างและห่างฝั่งทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

พยากรณ์ฝนสะสม 18 มีนาคม 2568
พยากรณ์ฝนสะสม 18 มีนาคม 2568
พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า 17-23 มีนาคม 2568
พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า 17-23 มีนาคม 2568

(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ)