‘บิ๊กโย่ง’ รับมีขบวนการวิ่งเต้น ‘ขอลดโทษ’ ปม ‘โกงเงินคนจน’ ย้ำเชื่อมั่นผลสอบกรรมการ

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงกรณีที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) มีคำสั่งโยกย้ายผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง นิคมสร้างตนเอง และศูนย์ที่เกี่ยวข้องรวม 65 รายเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการตบตา เนื่องจากบางรายได้โยกย้ายกลับคืนตำแหน่ง บางรายโยกย้ายสลับตำแหน่ง ทั้งที่อยู่ในรายชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยว่า ที่ผ่านมา พม.โดยพส.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบสวนวินัยร้ายแรง ขณะเดียวกันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบและพบมีมูลความผิด จำนวน 270 รายชื่อ ซึ่งได้ส่งรายชื่อมาให้พม. ในจำนวนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่พส.ได้มีคำสั่งโยกย้าย ซึ่งผลสอบ พส.เบื้องต้นพบมีมูลกระทำความผิด แต่ยังต้องมีการสอบสวนวินัยหลังจากนี้ ดังนั้นการโยกย้ายดังกล่าวส่วนหนึ่งเพื่อรองรับภาวะขาดแคลนคนทำงาน

รมว.พม.กล่าวอีกว่า โดยได้พิจารณาแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.ผู้ที่ตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดก็ให้ย้ายกลับ 2.ผู้ที่มีความผิดเล็กน้อย ก็ให้ลงโทษ อาทิ ลดขั้น ตัดเงินเดือน แล้วย้ายสลับตำแหน่ง และ3.ผู้ที่มีความผิดร้ายแรง ก็สั่งให้ออกจากราชการ หรือพักราชการไว้ก่อน ทั้งนี้ ตนได้ย้ำกับนางนภา เศรษฐกร อธิบดีพส.ว่าต้องทำตามกฎระเบียบ อีกทั้งเป็นเรื่องของคำสั่งตนและนโยบายรัฐบาล หากทำนอกเหนือจากที่ตนสั่งหรือไม่ปฏิบัติตาม ตนก็จะลงโทษอธิบดีพส.เอง ซึ่งอันนี้พูดต่อหน้าอธิบดีพส.เลย อธิบดีก็ได้ยืนยันว่าจะไม่ทำ และจะบริหารงานให้คนทำงานได้ นอกจากนี้ หากยังมีปัญหาเกิดขึ้น ตนก็ต้องรับผิดชอบในภาพรวมด้วย เพราะถือว่าตนเป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนี้

“ส่วนที่กังวลว่าการโยกย้ายสลับคนเหล่านี้จะไปสร้างปัญหาในพื้นที่อื่นอีก ก็ขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าเรามีระบบการจ่ายเงินสงเคราะห์ใหม่ที่รัดกุม เน้นจ่ายเงินผ่านระบบบัญชี จ่ายเป็นเงินสดเฉพาะรายที่จำเป็น อีกทั้งมีคณะกรรมการตรวจสอบทุกขั้นตอน คิดว่าไม่น่าจะกระทำการทุจริตได้อีก แต่ก็อยากให้สังคมช่วยกันตรวจสอบอีกทาง”

ถามว่ากรณีการสอบวินัยร้ายแรงอดีตปลัดพม.พร้อมพวกรวมทั้งหมด 11 คน มีกระแสข่าวว่าเกิดการวิ่งเต้นเพื่อลดโทษจากไล่ออกเป็นให้ออก พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า แน่นอนเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีคนพยายามที่จะทำ แต่มันอยู่ที่เราว่าจะมั่นคงหรือไม่ ยืนยันว่าตนมั่นคงและมั่นใจในคณะกรรมการสอบวินัยที่ตั้งขึ้น ส่วนผลสอบจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ดุลยพินิจของคณะกรรมการสอบ ตนไม่สามารถแทรกแซงได้ เว้นแต่หากผลสอบออกมาแล้ว ตนจึงสามารถใช้ดุลยพินิจว่าผลสอบมีนอกมีนัยหรือไม่ ก็จะสั่งให้สอบเพิ่มเติมหรือสอบใหม่ ซึ่งเป็นอำนาจที่ตนทำได้

ถามว่ากรณีที่มีกระแสข่าวหญิงสาวคนสนิทอดีตปลัดพม. ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการพม.ร่วมกระทำความผิดฟอกเงิน พม.จะมีการตรวจสอบย้อนหลังด้วยหรือไม่ พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ทราบว่าอดีตข้าราชการคนดังกล่าวลาออกตั้งแต่ปี 2559 แล้ว ฉะนั้นถือว่าพ้นอำนาจที่ พม.จะไปดำเนินการสอบทางวินัยภายใน 180 วัน แต่ทั้งนี้ ยังสามารถดำเนินการทางอาญาได้ ซึ่งจะต้องรอให้การสอบวินัย และการสอบทางละเมิดเสร็จสิ้นก่อน

 


ที่มา  มติชนออนไลน์