ศาลปกครองกลาง ห้าม นำที่ดินพุทธมณฑล 2.5พันไร่ ไปเป็นที่ราชพัสดุ

ศาลปกครองกลาง ห้าม กรมธนารักษ์ นำที่ดิน พุทธมณฑล 2.5 พันไร่ ขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อ้างที่ดินพุทธมณฑลได้รับการจัดซื้อและบริจาคเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา มิใช่ทรัพย์สินของรัฐ

รายงานข่าว จาก ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาในคดีที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรมธนารักษ์ โดยมีคำสั่งห้ามกรมธนารักษ์ดำเนินการขึ้นทะเบียนที่ดินพุทธมณฑล เนื้อที่ 2,500 ไร่ เป็นที่ราชพัสดุ

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ยื่นฟ้องกรมธนารักษ์ต่อศาลปกครองกลาง เนื่องจากกรมธนารักษ์มีแผนที่จะนำที่ดินพุทธมณฑลขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 ในขณะที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวเป็นศาสนสมบัติกลางของพระพุทธศาสนา

ในการพิจารณาคดี ฝ่ายโจทก์ให้เหตุผลว่าที่ดินพุทธมณฑลได้รับการจัดซื้อและบริจาคเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา มิใช่ทรัพย์สินของรัฐ ในขณะที่กรมธนารักษ์อ้างอิงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ระบุว่าที่ดินพุทธมณฑลเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินซึ่งใช้เพื่อประโยชน์ด้านศาสนาและวัฒนธรรม จึงควรขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ

ศาลปกครองกลางได้พิจารณาข้อเท็จจริงและมีความเห็นว่า ที่ดินพุทธมณฑลถูกจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ทางพระพุทธศาสนา โดยได้รับเงินบริจาคจากประชาชน รวมถึงการเวนคืนของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนการจัดสร้าง โดยมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสมบัติของรัฐ จึงถือเป็นศาสนสมบัติกลางตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 และไม่เข้าข่ายเป็นที่ราชพัสดุตามกฎหมาย

ด้วยเหตุนี้ ศาลปกครองกลางจึงมีคำพิพากษาห้ามกรมธนารักษ์นำที่ดินพุทธมณฑลขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ และให้ยกคำขออื่นของจำเลยทั้งหมด

ADVERTISMENT