สงกรานต์ 2568 บขส. คาดผู้โดยสารเดินทางวันละ 1.2 แสนคน

การเดินทาง
แฟ้มภาพประกอบข่าว

บขส.คาดผู้โดยสารเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์วันละ 1.2 แสนคน จัดรถวันละ 5,000 เที่ยว พร้อมอำนวยความสะดวกและปลอดภัย

นายชัชวาล พรอมรธรรม กรรมการรักษาการแทนกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เป็นประธานในการประชุมแผนปฏิบัติการเดินรถวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 เพื่อเตรียมความพร้อม อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย รองรับการเดินทางประชาชนเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 9-17 เมษายน 2568 รวม 9 วัน ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม

คาดสงกรานต์ 2568 ผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 15%

นายชัชวาลเปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 บขส. คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการขนส่งเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 ประมาณ 15% เนื่องจากมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง และประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนามากขึ้น โดยเที่ยวขาไป ระหว่างวันที่ 9-12 เมษายน 2568 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 120,000 คน โดยใช้รถโดยสาร (รถ บขส. รถร่วม รถตู้) เฉลี่ยวันละ 5,000 เที่ยว

นอกจากนี้ได้เตรียมรถเสริม ซึ่งเป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถทะเบียน 30) สำรองไว้ประมาณ 1,200 คัน เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร ให้เพียงพอต่อความต้องการในการเดินทางและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

ส่วนเที่ยวกลับ ระหว่างวันที่ 15-17 เมษายน 2568 คาดว่ามีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 100,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส. รถร่วม รถตู้) ประมาณวันละ 4,800 เที่ยว

ADVERTISMENT

โดย บขส. ได้ร่วมมือกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถโดยสารเฉพาะกิจ ให้บริการเชื่อมต่อ สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และสถานีรถไฟฟ้า ตั้งแต่เวลา 05.00-22.00 น. ให้บริการ รับ-ส่ง ประชาชน และมีจุดจอดให้บริการแท็กซี่ เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทาง

ย้ำจุดขึ้นรถโดยสารในแต่ละสถานี

นายชัชวาลกล่าวว่า ทาง บขส. ขอเรียนแจ้งให้ประชาชนที่จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า ในเส้นทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 9-12 เมษายน 2568 ให้ตรวจสอบจุดขึ้นรถของตนเองที่ระบุในตั๋วโดยสาร ซึ่งรอบนี้ บขส. มีการแบ่งรอบขึ้นรถเป็น 2 รอบ และจุดสถานที่ขึ้นรถจะต่างกันในแต่ละรอบ โดยจะมีข้อความระบุในตั๋วโดยสารว่า ’รถออกที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ หรือขนส่งหมอชิต 2‘

ADVERTISMENT

สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางในช่วงเวลา 05.00-18.00 น. ของวันที่ 9-12 เมษายน 2568 ยังคงขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ตามปกติ (ชานชาลาที่ 1-36)

และผู้โดยสารที่จองตั๋วในช่วงเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ของวันที่ 9-12 เมษายน 2568 ต้องเดินทางไปขึ้นรถที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (ประตู 2) เท่านั้น

ทั้งนี้ นายชัชวาลกล่าวว่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารที่อาจเดินทางมาผิดจุด บขส. ได้จัดบริการรถบัสรับส่ง (Shuttle Bus) จำนวน 6 คัน รับ-ส่งระหว่าง หมอชิต 2 (ชานชาลาที่ 17, 18, 19) และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยให้บริการระหว่าง 16.00-22.00 น. โดยผู้โดยสารสามารถใช้บริการรถบัสรับส่ง (Shuttle Bus) ได้ฟรี

เข้มความมาตรการความปลอดภัย

นายชัชวาลกล่าวว่า มาตรการความปลอดภัย สำหรับรถโดยสารของ บขส. ทุกคัน จะต้องผ่านการตรวจสอบในหลายขั้นตอนตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก ทั้งการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง, ระบบเบรกและความปลอดภัย, ตรวจสอบสภาพโครงสร้างและอุปกรณ์ช่วยชีวิต รวมถึงการตรวจสอบเอกสารและใบอนุญาตที่ต้องมีครบถ้วน

นอกจากนี้ นายชัชวาลกล่าวว่า ตนได้กำชับฝ่ายธุรกิจเดินรถ บขส. และผู้ประกอบการรถร่วม ดูแลมาตรการ ด้านความปลอดภัยของรถโดยสารและพนักงานขับรถอย่างเข้มงวด โดยเน้นย้ำเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง โดยตรวจเช็กรถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

ควบคุมความเร็วบนรถโดยสาร ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง จัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมง และขอความร่วมมือผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทาง รวมถึงการคัดเลือกพนักงานขับรถจะต้องมีประสบการณ์ในการชำนาญเส้นทางในแต่ละจุดที่จะเดินทาง

ทั้งนี้ นายชัชวาลกล่าวว่า บขส. จะมีแผนวางมาตรการเพิ่มเติมที่จะเข้มงวดการคัดเลือกผู้ขับขี่รถโดยสาร บขส. มากขึ้น อาทิ การเข้มงวดตรวจสอบประวัติ และใบขับขี่โดยละเอียดมากขึ้น ทั้งเพิ่มการตรวจสุขภาพจิต และการตรวจสภาพร่างกายก่อนขับขี่

นอกจากนี้ นายชัชวาลกล่าวว่า บขส. ยังได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางบก ในการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ และพนักงานขับรถ ก่อนเดินทางทุกคันทุกคน, การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.), ขสมก. จัดการเดินทางเชื่อมต่อรถไฟ รถทัวร์ รถเมล์, กองบังคับการตำรวจจราจร สน.บางซื่อ, สน.ตลิ่งชัน และ สน.ทองหล่อ

สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกด้านการจราจร บริเวณโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ ทั้ง 5 แห่ง และตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์สารเสพติดของพนักงานขับรถก่อนปฏิบัติหน้าที่ ตั้งจุดตรวจรถโดยสารบนทางหลวงสายหลัก