ถมที่ดิน-ขุดดิน ทำอย่างไรให้ปลอดภัย และไม่ผิดกฎหมาย ?

ถมที่ดิน-ขุดดิน ทำอย่างไรให้ปลอดภัย และไม่ผิดกฎหมาย?

หลายคนอาจคิดว่าการถมที่ดินอาจฟังดูเป็นเรื่องง่าย แค่ถมดินให้สูงขึ้นก็จบเรื่อง… แต่ในความเป็นจริง ‘การถมดิน’ มีรายละเอียดมากกว่าที่คิด เพราะหากดำเนินการโดยไม่รู้ข้อกฎหมาย หรือไม่คำนึงถึงผลกระทบโดยรอบ อาจกลายเป็นปัญหาทางกฎหมายตามมา ทั้งเรื่องฟ้องร้องจากเพื่อนบ้าน น้ำท่วมพื้นที่ใกล้เคียง หรือการละเมิดระเบียบของท้องถิ่น

ในบทความนี้ จะพาไปทำความเข้าใจกับข้อควรรู้ก่อนถมที่ดิน ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน การประเมินผลกระทบ การขออนุญาตที่ถูกต้อง ไปจนถึงแนวทางการถมดินให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อคดีในอนาคต ถมให้ถูก… ประหยัดทั้งเวลา ทั้งเงิน และไม่เสียเพื่อนบ้าน!

โดยการถมดินจะมีข้อบังคับตามประมวลกฎหมายพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 ให้คำจำกัดความสำหรับคำว่า ขุด และถม ไว้ดังนี้

  • ขุดดิน หมายความว่า กระทำแก่พื้นดินเพื่อนำดินขึ้นจากพื้นดิน หรือทำให้พื้นดินเป็นบ่อดิน
  • ถมดิน หมายความว่า กระทำใด ๆ ต่อดินหรือพื้นดินเพื่อให้ระดับดินสูงขึ้นกว่าเดิม

พระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 บังคับใช้ในท้องที่เทศบาล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น บริเวณที่มีพระราชกฤษฎีกาให้บังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และเขตผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง ซึ่งในปัจจุบันเขตผังเมืองรวมมีการประกาศใช้ทุกจังหวัด ทำให้พระราชบัญญัติการขุดดินและถมดินใช้บังคับในทุกพื้นที่ นอกจากนั้นบางพื้นที่อาจมีกฎกระทรวงหรือข้อบัญญัติท้องถิ่นหรือกฎหมายอื่น ๆ กำหนดบริเวณห้ามขุดดินหรือถมดินบริเวณดังกล่าวไว้ ซึ่งการจะดำเนินการขุดดินหรือถมดินในพื้นที่บริเวณใดควรต้องศึกษาข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องในพื้นที่นั้นด้วย

การขุดดินและถมดินที่เข้าข่ายต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นตาม พระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543

ข้อบังคับการขุดดิน

การขุดดินที่มีความลึกจากระดับพื้นดินเกิน 3 เมตร หรือมีพื้นที่ปากบ่อดินเกิน 10,000 ตารางเมตร (ประมาณ 6 ไร่ 1 งาน) หรือมีความลึกหรือพื้นที่ตามที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นประกาศกำหนด ซึ่งเอกสารแจ้งจะต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับ แผนผังบริเวณที่จะขุดดิน แผนผังแสดงเขตที่ดินและที่ดินบริเวณข้างเคียง วิธีการขุดและระยะเวลาในการขุดดิน รายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการและด้านความปลอดภัยของผู้ดำเนินการและบุคคลภายนอก การป้องกันการพังทลาย ชื่อผู้ควบคุมงานและสำนักงานของผู้แจ้ง รวมถึงเอกสารอื่น ๆ ตามที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนด และเมื่อแจ้งแล้วหากได้มีการดำเนินการแจ้งโดยถูกต้องครบถ้วนเจ้าพนักงานท้องถิ่นจะออกใบรับแจ้งให้ภายใน 7 วัน

ADVERTISMENT

ซึ่งแม้ว่าผู้แจ้งจะได้รับใบรับแจ้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นแล้วก่อนการขุดดิน ก็ไม่เป็นเหตุที่จะคุ้มครองผู้แจ้งจากการขุดดินที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลหรือต่อสภาพแวดล้อม ผู้ขุดดินไม่ว่าจะเป็นเจ้าของที่ดิน ผู้ครอบครองที่ดิน ลูกจ้างหรือตัวแทน ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อความเสียหายนั้น

แต่อย่างไรก็ตาม การขุดดินที่มีความลึกจากระดับพื้นดินไม่เกิน 3 เมตร ซึ่งไม่ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น เมื่อจะขุดดินใกล้กับแนวเขตที่ดินของผู้อื่นในระยะน้อยกว่า 2 เท่าของความลึกของบ่อดินที่จะขุดต้องจัดการป้องกันการพังทลายของดินตามวิสัยที่ควรจะทำด้วย

ข้อบังคับการถมดิน

การถมดินโดยมีความสูงของเนินดินเกินกว่าระดับที่ดินต่างเจ้าของที่อยู่ข้างเคียง ที่มีพื้นที่เกิน 2,000 ตารางเมตร (ประมาณ 1 ไร่ 1 งาน) หรือมีพื้นที่เกินกว่าที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นประกาศกำหนด นอกจากจะต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นแล้ว ต้องจัดให้มีการระบายน้ำเพียงพอที่จะไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่เจ้าของที่ดินที่อยู่ข้างเคียงหรือบุคคลอื่น

และการถมดินโดยมีความสูงของเนินดินเกินกว่าระดับที่ดินต่างเจ้าของที่อยู่ข้างเคียง ที่มีพื้นที่ไม่เกิน 2,000 ตารางเมตร หรือมีพื้นที่น้อยกว่าที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นประกาศกำหนด แม้ว่ากฎหมายไม่ได้กำหนดให้ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น แต่ผู้ดำเนินการต้องจัดให้มีการระบายน้ำเพียงพอที่จะไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่เจ้าของที่ดินที่อยู่ข้างเคียงหรือบุคคลอื่นเช่นกัน

นอกจากพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 แล้ว ยังมีกฎหมายที่น่าสนใจเกี่ยวกับการขุดดินและถมดินอีกฉบับคือ กฎกระทรวงกำหนดมาตราการป้องกันการพังทลายของดินหรือสิ่งปลูกสร้างในการขุดดินหรือถมดิน พ.ศ. 2548 ซึ่งกำหนดรายละเอียดของการดำเนินการขุดดินและถมดินเพื่อกำหนดมาตราฐานด้านความปลอดภัยและการควบคุมงาน โดยขอยกข้อกำหนดในกฎกระทรวงบางส่วนที่น่าสนใจมาเป็นตัวอย่างดังนี้ (สามารถศึกษาข้อกำหนดเพิ่มเติมได้จากกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว)

– การขุดดินที่ต้องแจ้งแก่เจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องมีแบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน และรายการคำนวณของผู้รับใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง

– การขุดดินที่มีความลึกจากระดับพื้นดินเกิน 3 เมตร หรือมีพื้นที่ปากบ่อดินเกิน 10,000 ตารางเมตร ปากบ่อดินจะต้องห่างจากแนวเขตที่ดินของบุคคลอื่นหรือที่สาธารณะเป็นระยะไม่ น้อยกว่าสองเท่าของความลึกของบ่อดินที่จะขุด เว้นแต่จะได้มีการจัดการป้องกันการพังทลายของดินหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยการรับรองของผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา ตามกฎหมายว่าด้วยวิศวกร

– การถมดินที่มีพื้นที่ของเนินดินติดต่อเป็นผืนเดียวกันเกิน 2,000 ตารางเมตร และมีความสูงของเนินดินตั้งแต่ 2 เมตร นับจากระดับที่ดินต่างเจ้าของที่อยู่ข้างเคียง ต้องมีแบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน และรายการคำนวณของผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง

– การถมดินที่มีพื้นที่ของเนินดินติดต่อเป็นผืนเดียวกันเกิน 2,000 ตารางเมตร และมีความสูงของเนินดินตั้งแต่ 2 เมตร นับจากระดับที่ดินต่างเจ้าของที่อยู่ข้างเคียง ต้องมีผู้ควบคุมงานซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา

– การถมดินส่วนฐานของเนินดินจะต้องห่างจากแนวเขตที่ดินของบุคคลอื่นหรือที่สาธารณะเป็นระยะไม่น้อยกว่าความสูงของเนินดินที่จะถมดิน เว้นแต่จะได้มีการจัดการป้องกันการพังทลายของดินหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยการรับรองจากผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา ตามกฎหมายว่าด้วยวิศวกร

– ในระหว่างการขุดดินหรือถมดิน และภายหลังการขุดดินหรือถมดินแล้วเสร็จ ผู้ขุดดินหรือถมดิน เจ้าของที่ดิน หรือผู้ครอบครองที่ดิน แล้วแต่กรณี ต้องตรวจสอบเสถียรภาพของบ่อดินหรือเนินดิน และดำเนินการให้มีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ

ดังนั้น จะเห็นได้ว่ากฎหมายเกี่ยวกับการขุดดินและถมดินมีการกำหนดเรื่องการดำเนินการและมาตราฐานด้านความปลอดภัยไว้อย่างชัดเจน หากผู้ที่อยู่อาศัยติดกับที่ดินที่มีการขุดดินหรือถมดิน และได้รับความเสียหายหรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าอาจได้รับความเสียหายจากการขุดดินหรือถมดิน ซึ่งไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน สามารถขอให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งให้หยุดการขุดดินหรือถมดินนั้นได้

และตามพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 ยังบัญญัติว่า ในกรณีที่มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือว่าเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ใกล้ชิดหรือติดต่อกับที่ดินที่มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นและได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำความผิด เป็นผู้เสียหายตามกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งหมายความว่าผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีในทางอาญากับผู้กระทำความผิดได้เองด้วย

ตัวอย่างโทษทางอาญาตามพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 เช่น

– มาตรา 35 วรรคแรก การขุดดินหรือถมดินโดยไม่ได้รับใบรับแจ้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

– มาตรา 36 การขุดดินหรือถมดินที่ไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 6 เช่น กฎกระทรวงกำหนดมาตราการป้องกันการพังทลายของดินหรือสิ่งปลูกสร้างในการขุดดินหรือถมดิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท และปรับเป็นรายวันอีกวันละไม่เกิน 1,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังไม่ได้ปฏิบัติตาม

– มาตรา 43 ในกรณีที่ห้างหุ้นส่วน บริษัทหรือนิติบุคคลอื่นกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ กรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการกระทำอันเป็นความผิด ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการกระทำนั้นได้กระทำโดยตนไม่ได้รู้เห็นหรือยินยอมด้วย

การขออนุญาตขุดดิน-ถมดิน

หลักฐานในการขออนุญาตขุดดิน-ถมดิน

  1. แผนผังบริเวณที่จะทำการชุดดิน/ถมดินและแผนผังบริเวณแสดงเขตที่ดินและบริเวณข้างเคียงพร้อมทั้งวิธีการขุดดินหรือถมดิน

2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนานาทะเบียนบ้านของผู้แจ้ง

3. สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีผู้แจ้งเป็นนิติบุคคล)

4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคลหนังสือมอบอำนาจ สำเนาทาทะเบียนบ้านสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (กรณีมีการมอบอำนาจให้ผู้แทนแทนแจ้ง)

5. รายการคำนวณ

6. หนังสือรับรองว่าเป็นผู้ออกแบบและคำนวณการชุดดิน/ถมดิน พร้อมสำเนาบัตรอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม (กรณีที่งานมีลักษณะขนาดอยู่ในประเภทวิชาชีพวิศวกรรมควบคุบคุม)

7. สำเนาโฉนดที่ดิน เลขที่/น.ส.๓ เลขที่/สค.๑ ที่จะทำการขุดดิน/ถมดินถ่ายสำเนาหน้าหลังเท่าฉบับจริง

8. หนังสือยินยอมของเจ้าของที่ดิน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

9. หนังสือแสดงความยินยอมของผู้ควบคุมงานตามข้อ ๓ สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวิกรรมควบคุมของผู้ควบคุม (กรณีที่งานมีลักษณะขนาดอยู่ในประมาทวิชาชีพวิศวิกรรมควบคุม)

10. เอกสารรายละเอียดอื่น ๆ

ขั้นตอนการขออนุญาตขุดดิน-ถมดิน

  • ขอรับคำขออนุญาตจากกองช่าง
  • นำเอกสารตามหลังฐานยื่นประกอบคำขออนุญาต
  • นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจสถานที่
  • เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐาน
  • ออกใบอนุญาต
  • ผู้ยื่นคำขออนุญาตชำระค่าธรรมเนียม

ระยะเวลาในการออกใบอนุญาตขุดดิน-ถมดิน

  • ขั้นตอนในการตรวจสถานที่ขุด-ดิน-ถมดิน ระยะเวลา 1 วัน
  • ขั้นตอนในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ไม่การพิจารณาใบอนุญาต ระยะเวลา 1 วัน
  • ขั้นตอนในการตรวจสอบแบบแปลนต่าง ๆ ระยะเวลา 1 วัน
  • ขั้นตอนในการออกใบอนุญาต ระยะเวลา 1 วัน รวมระยะเวลาในการพิจารณาออกใบอนุญาตรวม 5 วัน

ค่าธรรมเนียมในการขออนุญาตขุดดิน-ถมดิน

-ใบรับแจ้งการขุดดินหรือถมดิน ฉบับละ 500 บาท

ถมดินเท่าใดจึงจะถือว่ามีการถมดินที่ต้องแจ้งตามกฎหมาย

-มีการถมดินลึกสูงกินกว่าที่ดินข้างเคียงและพื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร (1 ไร่ 1 งาน) หรือพื้นที่เนินดินตามที่ จพถ. กำหนด (ต้องทำรางระบายน้ำพอที่จะไม่ทำให้น้ำน้ำท่วมที่ดินข้างเคียงของบุคคลอื่น)

ถมดินเท่าใดจึงจะถือว่ามีการถมดินแต่ไม่ต้องแจ้งตามกฎหมาย

มีการถมดินลึกสูงเกินกว่าที่ดินข้างเคียงและพื้นที่น้อยกว่า 2,000 ตารางเมตร (1 ไร่ 1 งาน) (ต้องทำรางระบายน้ำพอที่จะไม่ทำให้น้ำท่วมที่ดินข้างเคียงของบุคคลอื่น)

ทั้งนี้ ปัญหาเรื่องถมดินได้มีข้อพิพาทระหว่างกันกับบ้านข้างเคียงอยู่หลายครั้ง เช่น

เมื่อปี 2564 ที่มีกรณีชาวบ้านนับสิบหลังคาเรือน ที่มาซื้อที่ดินปลูกบ้านอยู่ภายในซอยด้านข้างร้านอาหารครัวภักดี พื้นที่หมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งได้รับความเดือดร้อน หลังเจ้าของที่ดินข้างเคียง ซึ่งมีที่ดินติดกับด้านหลังบ้านของผู้ได้รับความเดือดร้อนนับสิบหลัง ได้ดินเข้ามาถมที่จนสูงกว่า 3 เมตร แถมยังก่อกำแพงสูงบนที่ดินที่ถมใหม่จนมิดหลังคาบ้านของกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อน

รวมถึงปี 2566 มีเจ้าของบ้านหลังหนึ่งโพสต์ ขอความช่วยเหลือหลังจาก โครงการบ้านจัดสรรข้าง ๆ ถมที่ดินสูงเกือบ 4 เมตรจนเท่าระดับหลังคาเวลาฝนตก น้ำไหลลงมาเป็นม่านน้ำตก อยู่ทุกข์ทรมานแบบนี้มานานถึง 7-8 ปีเคยร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่ได้รับการการแก้ไข

และล่าสุด เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่เทศบาลมะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เพจ ZOOM RAYONG ซูมระยอง ได้เผยภาพพื้นที่มุมสูงการเตรียมก่อสร้างโรงงานเซรามิกของนายทุนชาวจีน ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติม ได้ข้อมูลว่า พื้นที่ดังกล่าวเริ่มโครงการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 โดยการถมที่ดินดังกล่าว มีความสูงประมาณ 7 เมตร ส่งผลให้เวลาฝนตก น้ำ และดินโคลน ไหลทะลักเข้าบ้านประชาชน สร้างความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ซึ่งเรื่องนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าจะหาทางออกให้กับบ้านข้างเคียงหรือเจ้าของที่ดินอย่างไร

อ้างอิงข้อมูลจาก : กรมโยธาธิการและผังเมือง, องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยพุก, องค์การบริหารส่วนตำบลโพนทอง