
กรมอุตุนิยมวิทยา 7 วันข้างหน้า เตือนอากาศร้อนถึงร้อนจัด ยังมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง คาดช่วง 26-30 เม.ย.นี้ เตรียมรับมือ “พายุฤดูร้อน” พัดถล่มอีกรอบ ทั้งพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง เหตุมีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนปะทะกับอากาศร้อนจัด ภาคใต้ฝนเพิ่ม 1-5 พ.ค. 68
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (21 เม.ย. 68) ว่า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้นบางพื้นที่ รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว
สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากลมตะวันตกพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
ส่วนสภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้ การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง และยังคงมีฝนตกบางพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ในช่วงวันที่ 21-25 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมอ่าวไทยและประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง
ส่วนในช่วงวันที่ 26-27 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากมีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน

สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 21-22 เม.ย. บริเวณภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 เม.ย. ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง สำหรับบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 23-26 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนในวันที่ 26-27 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง
สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
ขณะที่ช่วงวันที่ 26-30 เม.ย. มีโอกาสจะเจอพายุฤดูร้อนอีกครั้ง ทิศทางลมยังแปรปรวน ยังต้องติดตามและอัพเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เมษายนปีนี้ ฝนมาเป็นระยะ ๆ พอช่วยคลายร้อนได้ แม้ปริมาณฝนยังไม่มากนัก แต่ฝนส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นจะเป็นฝนฟ้าคะนอง มีลมกระโชกแรง ต้องระวังช่วงที่มีฝนตก 1-5 พ.ค. 68 ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ)
ส่วนสถานการณ์แผ่นดินไหวล่าสุด (ช่วงวันที่ 20-21 ม.ย. 68) ตรวจพบเหตุการณ์แผ่นดินไหว มีศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศเมียนมา จำนวน 19 ครั้ง, ประเทศลาว จำนวน 1 ครั้ง, ขนาด 2.7 มีศูนย์กลางอยู่ที่ ต.แม่นาเติง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และขนาด 1.9 มีศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ยั้งเมิน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็ก ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยแต่อย่างใด
ส่วนสรุปสถานการณ์อาฟเตอร์ช็อกล่าสุด หลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขนาด 8.2 ที่ประเทศเมียนมา เมื่อ 28 มีนาคม 2568 ล่าสุดมีเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นทั้งหมด 624 เหตุการณ์/ครั้งแล้ว และส่วนใหญ่ยังคงเกิดขึ้นที่เมียนมา