
เวลาผ่านไปชั่วพริบตา วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ครบรอบทำงานของทีมชัชชาติ
โดย “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นำทีมรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงผลงานในโอกาสการทำงานครบรอบ 3 ปี ภายใต้แนวคิด “ก้าวสู่ปีที่ 4 ขับเคลื่อนกรุงเทพฯ สู่เมืองแห่งโอกาสและความหวัง” ด้วยหลักการทำงาน 5 ข้อ
ร่วมมือ-ร่วมใจ จริงใจ คือพลัง
ข้อมูลรัว ๆ การบริหารราชการ กทม. 3 ปีที่ผ่านมา แก้ไขปัญหาไปแล้ว 754,004 เรื่อง จากที่มีผู้แจ้งผ่านแอป Traffy Fondue 929,853 เรื่อง ประชาชนมีความพึงพอใจ 81% ผลงานเด่น อาทิ การจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยนอกจุดผ่อนผันลุล่วงแล้ว 446 จุด ทั่วกรุง ผู้ค้าลดลงกว่า 5,300 ราย ทำให้ กทม.สามารถพัฒนาทางเท้าให้สะอาด สวยงาม เป็นระเบียบ ปลอดภัย เดินได้เดินดี และเป็นมิตรกับผู้สัญจรทุกระดับ ระยะทาง 1,100 กิโลเมตร
อีกเรื่องก็ต้องยกให้นโยบายปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น พบว่าทำได้จริงทะลุ 1.8 ล้านต้น และมีสวน 15 นาทีใกล้บ้านเพิ่มขึ้นถึง 199 แห่ง รวมทั้งมีถนนสวยกระจายทั่วทั้ง 50 เขต
ส่งการบ้าน 9 ดี 9 ด้าน
สำหรับผลงานตามนโยบาย 9 ดี 9 ด้าน มีดังนี้
1.“ด้านโปร่งใสดี” อาทิ เปิดข้อมูลงบประมาณแบบ Machine Readable เปิดให้ติดตามความคืบหน้าการเบิกจ่าย งบประมาณ Open Budgeting ประชาชนใช้งาน data.bangkok มากกว่า 4 ล้านครั้ง, ปรับระบบการขออนุญาตก่อสร้างออนไลน์ ทราบผลภายใน 14 วัน, BMAOSS ยกการขออนุญาตทั้งหมดเข้าระบบ ติดตามได้ ตรวจสอบได้ ไม่ล่าช้า สถิติ ณ เดือนตุลาคม 2567 มีคำขออนุญาตก่อสร้างอยู่ในระบบแล้ว 3,000 เคส, มีการดำเนินการกับข้าราชการทุจริตกว่า 28 ราย
2.“ด้านเดินทางดี” อาทิ แก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงน้ำท่วม 516 จุด จาก 737 จุด, เตรียมความพร้อม ลอกท่อ ลอกคลอง เปิดทางน้ำไหล เฉลี่ย 70%, สร้างศาลารอรถเมล์ใหม่ 100+ แห่ง ตั้งเป้าศาลาใหม่ 300 แห่ง+ป้าย 500 แห่ง, ชำระหนี้สิน BTS ค่า E&M และค่าเดินรถบางส่วนรวม 37,000 ล้านบาท, ปรับสัญญาไฟจราจรเป็นแบบ Adaptive ลดความล่าช้าได้ 15% ต่อแยก, วิเคราะห์แก้ไขปัญหาจุดฝืด 50 จุด เพิ่มความเร็วเฉลี่ย 20% ต่อจุด, ผายปากทางแยก 70 จุด, ส่งเสริมเมืองเดินได้ ปั่นได้ ปรับปรุงทางเท้า 1,100 กม. เพิ่ม Bike Sharing 1,100+คัน เชื่อมการเดินทาง Last Mile มีใช้งานกว่า 75,000 ครั้ง, พัฒนาสกายวอล์กย่านการแพทย์ราชวิถี สะพานเขียวเชื่อมสวนเบญจกิติ และสวนลุมพินี
3.“ด้านสิ่งแวดล้อมดี” อาทิ ขยายเวลาเปิด-ปิดสวนสาธารณะ ขยายการบริการ Pet Park, ลดปริมาณขยะเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิดเกิน 1,000 ตันต่อวัน ประหยัดค่ากำจัดขยะ 1,000 ล้านบาท ค่าเก็บขนขยะ 2,000 ล้านบาท, ผลักดันข้อบัญญัติการคัดแยกขยะเพื่อลดค่าธรรมเนียม, ลดค่าฝังกลบขยะจาก 700 บาท เหลือ 600 บาท ประหยัดงบประมาณ 230 ล้านบาท
แก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 มีการประกาศ Low Emission Zone ห้ามรถบรรทุกเข้าเขตกรุงเทพฯชั้นใน มีรถมาลงทะเบียน Greenlist เกือบ 60,000 คัน, สร้างเครือข่าย Work From Home 100,000 คน, ให้ยืมรถอัดฟางลดการเผาตอซังครอบคลุมพื้นที่ 17,000 ไร่, พัฒนาห้องเรียนปลอดฝุ่น พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียน 740 ห้อง
4.“ด้านสังคมดี” อาทิ กระจายอำนาจงบประมาณให้ชุมชนเสนองบฯได้ 200,000 บาท/ชุมชน/ปี, สนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย 15 ชุมชน 1,800 ครัวเรือน, BKK Food Bank ส่งต่อมื้ออาหาร 4 ล้านมื้อ, ทำบัตรประชาชน ตัดผม อาบน้ำ แจกอาหาร มีผู้ใช้บริการหมุนเวียน 225,640 ครั้ง และได้งานทำมากกว่า 50 คน, สิ้นปี 2568 นี้เตรียมเปิดบ้านอิ่มใจ ดูแลคนไร้บ้านแบบครบวงจร, กทม.จ้างงานคนพิการเพิ่มเกือบ 4 เท่า จาก 132 คน เป็น 415 คน
ขยายเวลาเปิด-ปิด เพื่อให้บริการประชาชนสวนสาธารณะ ศูนย์กีฬา ศูนย์นันทนาการและห้องสมุด, มีสมาชิกมากกว่า 230,000 คน (แอป CSTD) ผู้จองใช้งาน 1,265,812 ครั้ง, ผู้ใช้งานลานกีฬา 11 ล้านครั้งต่อปี, ปรับปรุงกายภาพบ้านหนังสือ 82 แห่ง, ปรับปรุงกายภาพลานกีฬา 204 แห่ง, ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กรุงเทพกลางแปลง, Bangkok Design Week, Colorful Bangkok ฯลฯ, กิจกรรม Pride Month มีคนเข้าร่วมกว่า 200,000 คนในปี 2567, ดนตรีในสวน 405 ครั้งใน 15 สวนสาธารณะทั่วกรุงเทพฯ ฯลฯ

อัพเกรดคุณภาพชีวิตเส้นเลือดฝอย
5.“ด้านสุขภาพดี” อาทิ ตรวจสุขภาพล้านคน 780,000 คน, Mobile Medical Unit ตรวจสุขภาพเชิงรุกถึงชุมชน 360,000 คน, Motorlance ช่วยลดเวลาในการเข้าถึงผู้ป่วยฉุกเฉิน <10 นาที, ทำบัตรคนพิการเชิงรุกถึงบ้าน 23,300 เคส, Healthtech, ก่อสร้างและปรับปรุงโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยนอกได้มากขึ้น 1,000,000 เคส, ขยายคลินิกนอกเวลารองรับผู้ป่วย 300,000 เคส, ส่งเสริมชมรมผู้สูงอายุมียอดสมาชิก 39,000 คน, ผ่าตัดทำหมันหมาแมว 119,000 ตัว วัคซีนพิษสุนัขบ้า 489,000 ตัว รับอุปการะ 270 ตัว, เพิ่มตู้กดน้ำดื่มฟรี 200 แห่งจาก กทม. และ 2,400 แห่งจากภาคเอกชน, ตรวจสุขอนามัยห้องน้ำสาธารณะ 5,900 แห่ง, ติดตั้งเครื่อง AED ในพื้นที่สาธารณะและชุมชน 330 แห่ง
6.“ด้านเศรษฐกิจดี” อาทิ จัดระเบียบหาบเร่นอกจุดผ่อนผัน 400 จุด ผู้ค้า 5,000 ราย, จัดหา Hawker Center รองรับผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบ, เปิดจองแผงค้าออนไลน์ในตลาด กทม. 500 แผงค้า, จัดถนนคนเดินกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้มากกว่า 19 ล้านบาท, เปิด Farmer Market 50 เขต และ 4 สวนสาธารณะ เกษตรกรพบผู้บริโภคโดยตรงจำหน่ายผักผลไม้ออร์แกนิก 100% มาตรฐาน Bangkok G, พัฒนาเว็บไซต์ visit.bangkok.go.th รวบรวมกิจกรรมท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ, ร่วมกับคนในพื้นที่พัฒนาย่านสร้างสรรค์ 55 ย่าน, โรงเรียนฝึกอาชีพ มีคนสนใจมาเรียน Upskill- Reskill 100,000 คน, เพิ่มหลักสูตรฝึกอาชีพตอบโจทย์ตลาดงาน ขับรถสามล้อไฟฟ้า แม่บ้านโรงแรม ตัดขนสุนัข ฯลฯ
7.“ด้านปลอดภัยดี” อาทิ ปรับปรุงไฟฟ้าส่องสว่าง 115,000 ดวง, ติดตั้งกล้อง AI CCTV ตรวจจับมอเตอร์ไซค์บนทางเท้า 460,000 คดี, ปรับปรุงทางม้าลาย 2,100 แห่ง, ปรับลดความเร็วสูงสุดเหลือ 60 กม./ชม., ลดการเสียชีวิตบนท้องถนน 9%, ก่อสร้างและปรับปรุงสถานีดับเพลิง 5 แห่ง อยู่ในแผนอีก 6 แห่ง, ซ่อมแซมรถดับเพลิงให้พร้อมใช้งาน 80% เพิ่มจากเดิมอยู่ที่ 37%, กระจายถังดับเพลิง 74,000 ถัง ตั้งเป้า 5 หลังคาเรือนต่อถัง, จัดทำแผนเผชิญเหตุเกือบ 1,200 ชุมชน, ตรวจสอบความพร้อมใช้งานประปาหัวแดง 24,000 จุด
8.“ด้านบริหารจัดการดี” อาทิ ประหยัดงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างปี 2567 กว่า 30,275 ล้านบาท, ตั้งเป้าติดตามการทำงาน Tight Loose Tight ให้อิสระในการดำเนินการ และติดตามอย่างเข้มงวด, กำหนด 32 เป้าหมายดำเนินการของสำนักงานเขต, จัดตั้ง “สำนักดิจิทัลกรุงเทพมหานคร”, อบรมการใช้ AI ให้กับคน กทม. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, แต่งตั้งทูตสื่อสารคนรุ่นใหม่, เพิ่มจุดบริการด่วนมหานครตามห้างและตลาด 12 แห่ง รวมเป็น 20 แห่ง นำบริการ กทม. ไปหาประชาชน
9.“เรียนดี” อาทิ จัดการเรียนการสอนแบบดิจิทัลคลาสรูม โดยนักเรียน กทม.สามารถเรียนผ่านโครมบุ๊ก ทำให้คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนเพิ่มขึ้น 28%, จัดห้องเรียนดิจิทัล ปี 2567 ขยาย 10 โรงเรียน ผลการเรียนดีขึ้นทุกวิชา แผนงานปี 2568 ขยาย 437 โรงเรียน ระดับชั้น ป.4, ม.1 ทุกคน, ใช้ AI ช่วยฝึกเด็กพูด/เขียน ภาษาอังกฤษดีขึ้น 37%, คืนครูให้ห้องเรียน จ้างธุรการ 371 คน จ้าง รปภ.ทุกโรงเรียน ทำให้ครูไม่ต้องเข้าเวร ลดเอกสารการเงิน 45% เติมครูภูมิลำเนากรุงเทพฯ (ครูช้อน) เพิ่มสวัสดิการบ้านพักครู
พัฒนาครู สร้างครูแกนนำเทคโนโลยี และสร้างเครือข่ายโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ สร้างครูแกนนำ 1,400 คน ออกแบบหลักสูตรสื่อการสอน และวัดผลด้วยเทคโนโลยีได้ สร้างครูโค้ช 120 คน เข้าร่วมโครงการก่อการครู ขยายผล SLC เป็นต้น
ปีที่ 4 งานรอเข้าคิวอีกเพียบ
ทั้งนี้ เวลา 1 ปีที่เหลือ กทม.มีหลายโครงการที่จะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เดินหน้าด้วยความร่วมมือ อาทิ สนับสนุนรถเมล์เพื่อลดค่าครองชีพและส่งเสริมการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ, Bangkok Public Square พื้นที่สร้างสรรค์เพื่อประชาชน (สนามกีฬา คอนเสิร์ต ศิลปะ อีเวนต์), แก้ไข พ.ร.บ.กรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งในแง่ งาน เงิน คน, Business Lab พื้นที่ให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีพื้นที่ขายของทั้งแบบ Online และ Onsite
การเจรจาคืนรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้รัฐบาล ให้เป็น Single Owner, หอศิลป์ฝั่งธนบุรี (อาคารสาธารณะคลองสาน), แก้ไขปัญหาจราจรด้วยระบบสัญญาณไฟอัตโนมัติ และศูนย์ควบคุมข้อมูลกลาง, เดินหน้าขยายบริการสาธารณสุข เช่น ก่อสร้าง รพ.ภาษีเจริญ สายไหม ทุ่งครุ, Personalize Education เน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาการศึกษา, การแยกขยะทั้งระบบ จากครัวเรือน ตอนเก็บขน และตอนกำจัด
สร้างสวนสาธารณะใหม่และศูนย์กีฬาใกล้เมือง เช่น สวนบึงฝรั่ง ศูนย์นันทนาการร่มเกล้า การขยาย Low Emission Zone ให้ครอบคลุมทั่วทั้งกรุงเทพฯ + ห้องแล็บตรวจต้นตอฝุ่น