
กรมอุตุนิยมวิทยา 7 วันข้างหน้า ชี้มรสุมแรงขึ้น-ร่องฝนพาดผ่าน กับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามัน ยังต้องติดตามจะแรงขึ้นถึงระดับไซโคลนหรือไม่ เตือนทั่วประเทศ รวม กทม.และปริมณฑล ฝนตกหนักถึงหนักมาก และตกสะสม ช่วง 23-27 พ.ค.นี้ เฉลี่ย 70-80% ของพื้นที่ เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้
กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุก ๆ 24 ชม.(นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.)15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 21 พ.ค.-4 มิ.ย. 68 init. 2025052012 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลอง เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย
ช่วงวันที่ 21 -22 พ.ค.68 เช้าๆ ถึงเที่ยง ยังพอมีแดดอยู่บ้าง บ่าย ๆ ถึงค่ำ ยังมีฝน/ฝนฟ้าคะนอง และมีตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะตอนบนของภาคเหนือ (ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ น่าน แพร่ อุตรดิตถ์) ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ด้านรับมรสุม วันนี้มรสุมเริ่มพัดแน่ทิศมากขึ้นปกคลุมทะเลอันดามัน ส่วนประเทศไทยตอนบนยังมีลมฝ่ายใต้ ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคอีสาน ต้องเฝ้าระวังฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ ระวังน้ำท่วมขังในพื้นที่ที่น้ำท่วมซ้ำซาก มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ เดินทางสัญจรต้องระวังฝนตกถนนลื่น ออกนอกบ้าน ต้องพกร่มและเสื้อกันฝน
ส่วนช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. 68 เป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ประเทศไทยจะมีฝน/ฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีตกหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน เนื่องจากมรสุมมีกำลังแรงขึ้น
ประกอบมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ปกคลุมทะเลอันดามัน (จะแรงขึ้นถึงระดับไซโคลนหรือไม่ยังต้องติดตาม) และมีแนวร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคอีสาน ต้องระวังฝนตกหนัก ฝนตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ของ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก กาญจนบุรี ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก
หลังจากนั้นช่วงวันที่ 30 พ.ค.-4 มิ.ย. 68 พื้นที่ที่มีฝนตกอาจลดลงบ้าง แต่ยังมีฝน/ฝนฟ้าคะนอง และตกหนักบางพื้นที่บริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน และด้านรับมรสุม ยังมีฝนตกต่อเนื่องประเทศไทยตอนบน ยังเป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ฝนที่ตกสะสม


(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ)
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง
สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง สำหรับเรือเล็กบริเวณห่างฝั่งทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค.

คาดหมายอากาศรายภาค
วันที่ 21-27 พ.ค. 2568
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 21-22 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 21-22 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 21-22 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 21-22 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 21-22 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 23 – 27 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 21-22 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพฯและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 21-22 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส

(ออกประกาศ 21 พฤษภาคม 2568 12:00 น.)