สัญญาณดี ! ‘ผู้ว่าฯเชียงราย’ เตรียมทีมแพทย์-อาหารมนุษย์อวกาศให้พลังงาน ช่วย 13ชีวิตทีมหมูป่า

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 30 มิถุนายน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พล.ต.ปราโมทย์ อิ่มวัฒนา ผู้แทนเจ้ากรมแพทย์ทหารบก และพ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย รอง ผบก. ภ. จว.เชียงรายร่วมกันแถลงความคืบหน้าปฎิบัติการช่วยเหลือเยาวชนจำนวน 13 ชีวิต ซึ่งติดในถ้ำวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า วันนี้มีสัญญาณ ดีกว่าทุกวัน สามารถสูบน้ำได้ดีมากและมีความใส แสดงว่าน้ำใหม่ไม่เติมเข้ามาจึงเสริมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เข้ามา ชุดชีลก็วางไกค์หลอดและขวดออกซิเจนตามเส้นทาง เพื่อใช้นำทางทีมดำน้ำและใช้กรณีฉุกเฉินในการเข้าไปค้นหา ขณะเดียวกันก็ใช้ในกรณีที่ลำเลียงเด็กๆออกมาด้านนอกได้ด้วย

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่าต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการโรยตัวหรือการหาทางเข้าตามช่องทางอื่นๆ พบว่ามีอยู่ 2 จุดที่คิดว่าสำคัญและสามารถเข้าไปได้ จึงใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงอาหารและกองกำลังพลทีมแพทย์เข้าไปเสริม เพื่อเข้าไปค้นหา ขณะเดียวกันมีการเตรียมช่วยชีวิตตั้งแต่ระดับขั้นต่ำ ขั้นกลางและขั้นวิกฤต นอกจากนี้ยังเตรียมอาหารพิเศษ ซึ่งเป็นอาหารคล้ายๆกับอาหารของนักบินอาวกาศ ซึ่งกินนิดเดียวสามารถอยู่ได้นานให้พลังงาน ให้แคลลอรี่ ให้โปรตีนสูง ซึ่งสั่งมาถึงวันนี้แล้ว เพียงรอสัญญาณจากหน่วยชีลส่งสัญญาณมาจะให้เข้าไปช่วยเหลือเมื่อใด และตอนนี้ยังต้องแก้สองเรื่องคือการส่งกลับผู้สูญหายและการลำเลียงอุปกรณ์เข้าพื้นที่ซึ่งยังติดขัดมีความล่าช้าเพราะการจราจร ซึ่งจะต้องมีการจัดระเบียบใหม่

ด้านพล.ต.ปราโมทย์ กล่าวว่า วันนี้มีความร่วมมือระหว่างแพทย์ ทหารและตำรวจ ซึ่งมีการจัดไว้จำนวน 13 ทีมสำหรับช่วยเหลือน้องๆทั้ง 13 คน หากหน่วยชีลส่งสัญญาณมาว่าพบน้องเข้าแล้วก็จะทำการช่วยทันทีตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงโรงพยาบาล ที่นี่มีโรงพยาบาลสนามมที่จะคัดแยกอาการเพื่อลำเลียงส่งต่อยังโรงพยาบาล โดยที่โรงพยาบาลเชียงรายมีการเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดทั้งทีมแพทย์ อุปกรณ์และสถานที่รองรับการให้การรักษาเด็กทั้งหมด นอกจากนี้ยังเตรียมนายแพทย์ที่มีขีดความสามารถเท่าหน่วยชีล สามารถมุดเข้าไปกรณีที่น้องมีสภาพอิดโรยมาก จะเข้าปประเมินอาการและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนจะพามาด้าน

ขณะที่ทาง พ.ต.อ.วีระยุทธ กล่าวว่ากรณีการจราจรที่ติดขัดเพื่อเปิดเส้นทางเข้าและออกได้โดยสะดวก ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะไม่อนุญาตให้รถเข้ามาจอดบริเวณสองข้างถนนระหว่างเส้นทางเข้ามายังวนอุทยาน โดยจะจัดสถานที่จอดให้ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร โดยจะมีรถบริการรับส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามายังพื้นที่

ด้านMr Sai Lone San Khart สมาชิกวุฒิสภาของเมียนมา แจ้งระหว่างเดินทางมาพื้นที่เกิดเหตุว่าดินแดนรัฐฉานเป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทใหญ่หรือชาวไตที่ต่างเป็นพี่น้องกับคนไทยภาคเหนือของประเทศไทยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จึงได้มาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจเพื่อจะได้ช่วยเหลือเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยทางรัฐบาลเมียนมาแจ้งว่าให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ด้วย ทำให้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่เมียนมาได้พากันออกสำรวจดูแนวเขาในฝั่งเมียนมาที่เกี่ยวข้องกับเทือกเขาดอยนางนอนแล้ว ปรากฎว่าไม่พบถ้ำหรือโพรงที่จะสามารถเชื่อมต่อกับถ้ำหลวงได้แต่อย่าง กระนั้นหากว่าทางการไทยร้องขอสิ่งใดก็พร้อมจะสนับสนุนต่อไป

ที่มา มติชนออนไลน์