ผู้ว่าฯเชียงรายยันมีข่าวดีแน่ คืบหน้าทุกทาง วันนี้ดีใจที่สุด”ปฏิบัติการ”มา ย้ำงดโดรน-เรี่ยไร

เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 1 กรกฎาคม ที่วนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จ.เชียงราย แถลงว่า ขณะนี้ยังไม่พบ หรือมีสัญญาณว่าพบทั้ง 13 คน แต่ยืนยันว่าปฏิบัติในการค้นหามีความคืบหน้ามาก และวันนี้สภาพอากาศเอื้ออำนวย วันนี้ดีใจที่สุดตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ หากพรุ่งนี้อากาศดีแบบนี้อีกคาดว่าจะมีข่าวดี อย่างไรก็ตามปฏิบัติการสูบน้ำออกจากถ้ำคืบหน้าไปด้วยดีทุกส่วน ทั้งการสูบน้ำจากหน้าถ้ำ การเจาะบาดาลที่เชื่อว่าพร่องน้ำจากถ้ำ หรือแม้แต่การสำรวจภาคพื้นดินบนเขาของกรมอุทยานที่พบลำธารและมีทางน้ำ ก็ได้ต่อท่อทำฝายเบี่ยงทางน้ำเพื่อไม่ให้น้ำจากลำธารไหลลงสู่ถ้ำตามข้อสันนิษฐาน จะได้ไม่ไปเติมน้ำในถ้ำ

ผจว.เชียงราย กล่าวด้วยว่า การปฏิบัติการดำน้ำทางหน้าถ้ำคืบหน้าจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จากหน่วยซีลเข้าไปตั้งฐานที่มั่นในโถง 3 ได้แล้ว ช่วงบ่ายวันนี้กำลังของหน่วยซีลที่มีมากกว่า 60 นาย ทั้งทหารตำรวจและอาสาสมัครผู้เชี่ยวชาญจากต่างชาติทางออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ที่เข้าไปร่วมปฏิบัติการด้านใน สามารถวางไลน์ติดตั้งถังอากาศ เข้าใกล้จุดสามแยกเข้าไปทุกที โดยขณะนี้ออกจากโถงสามไปได้ประมาณ 600 เมตร คาดว่าประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงจุดสามแยก แต่ยอมรับว่าเมื่อถึงจุดสามแยกจะมีพื้นที่ที่เข้าไปได้ยาก เจ้าหน้าที่เคยเข้าไปถึงแล้วแต่ติดขัด ทางตีบ ค่อนข้างแคบ ตัน ต้องถอนกำลังออกมา จุดนี้คือโจทย์ยากที่เมื่อไปถึงจะต้องฝ่าทะลวงเข้าไปให้ได้ เมื่อผ่านจุดนี้ไปได้ก็จะมีโอกาสไปถึงจุดที่เจอกับทั้ง 13 คนได้ไม่ยาก อะไรก็ตามหลังจากหน่วยซีลเริ่มปฏิบัติการอีกครั้งจนถึงขณะนี้ทำงานต่อเนื่อง 50 ชั่วโมงแล้ว ยืนยันว่าจะปฏิบัติการต่อเนื่องไม่หยุด เราไม่หยุดแน่นอน

เมื่อถามถึงกรณีมีการนำเสนอข่าวว่าเจ้าหน้าที่ที่ไปพบระหว่างทางไปเจาะน้ำบาดาล ทางถ้ำที่อยู่ใกล้เคียง พบรองเท้าสามข้าง ที่ข้างหนึ่งลักษณะคล้ายกับรองเท้าของเด็กที่ติดภายในถ้ำ ผจว.เชียงราย กล่าวว่า ไม่อยากพูดเรื่องนี้ แต่ได้รับรายงานว่ามีการพบรองเท้าจริง แต่ขอย้ำว่ายังไม่สามารถยืนยันได้เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่อาจจะมีใครเข้ามาเที่ยวก็ได้ อาจเป็นของนักท่องเที่ยวก็ได้ เรื่องนี้อย่าพึ่งด่วนสรุป เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากข้อมูลที่พูดไปไม่มีการตรวจสอบให้แน่ชัดก็จะกลายเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า เนื่องจากตอนนี้ท้องฟ้าเปิดอาจจะมีสื่อมวลชนต้องการใช้โดรน หรือเครื่องบังคับอากาศยานใดๆ ขอให้ดำเนินการขออนุญาตอย่างถูกต้องจากศูนย์ประสานงานก่อน หากใครบินโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถือว่าผิดกฎหมายทันที เนื่องจากพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ควบคุมโดยกองทัพอากาศ มีการใช้อากาศยานเพื่อส่งกำลังบำรุงในภารกิจค้นหาทางเข้าจำนวนมาก หากไม่มีการแจ้งและควบคุมการบินให้ดีอาจได้รับผลกระทบ อีกประเด็นสำคัญพื้นที่นี้มีชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน หากทำการบินโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ถูกต้องเหมาะสม อาจกระทบความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านได้ ย้ำว่าหากบินต้องขออนุญาตไม่เช่นนั้นผิดกฎหมาย จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเด็ดขาด

ผจว.เชียงราย กล่าวว่า ตอนนี้มีดราม่ามากมายขอชี้แจงแต่ละเรื่องดังนี้ ไม่มีการเปิดรับหรือขอบริจาคสิ่งใดใดหรือเงินทองเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติภารกิจครั้งนี้เด็ดขาด เรามีงบประมาณเพียงพอไม่ขอรับการบริจาคใดใด การโพสต์ข้อความหรือปรับเรี่ยไรหรือรับบริจาคใดใดถือว่าเป็นความผิดจะต้องถูกดำเนินคดี ที่ผ่านมาอาจมีเจ้าหน้าที่ที่ไปโพสต์ข้อความโดยความใจร้อนอยากได้อุปกรณ์ต่างๆ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ตรงนี้ตักเตือนไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจดำเนินคดีไปแล้วหนึ่งราย แต่ผู้ที่มีจิตศรัทธามีน้ำใจจะนำสิ่งของหรืออาหารมาให้ก็สามารถนำมาส่งได้ที่อบต.โป่งผา

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า อีกกรณีที่จะต้องแจ้งดำเนินการคือขอจัดระเบียบผู้นำทางจิตวิญญาณต่างๆ ที่ต่างมาให้กำลังใจหรือญาติครอบครัวของผู้ที่ติดอยู่ภายในเชิญมาเพื่อต้องการกำลังใจ ตนเข้าใจ เพราะเจ้าหน้าที่ก็ต้องการกำลังใจเหมือนกัน แต่ขอจัดระเบียบว่าจะให้ทำการใดเกี่ยวกับผู้นำทางจิตวิญญาณได้จุดเดียวคือบริเวณหน้าทางเข้าถ้ำเท่านั้น ไม่ให้เข้าไปในถ้ำอย่างเด็ดขาด

“อีกเรื่องคือมีสื่อออนไลน์ไปเสนอข่าวดราม่าเรื่องว่าเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจากจีนที่มาช่วยงาน ไม่ได้รับการดูแลให้รับประทานแต่ข้าวเปล่านั้น ตรงนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ทั้งที่พักใครอยู่ในพื้นที่จะเห็นว่าที่นี่มีอาหารจากครัวพระราชทานจากจิตอาสาต่างๆ ไว้บริการรองรับได้ถึง 3,000 คน แต่ตรวจสอบแล้วทราบว่าอาสาสมัครชาวจีนดังกล่าวทานมังสวิรัติ ก็ได้แจ้งไปแล้วว่าให้บอกกับทางเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่จะจัดอาหารให้ แต่การนำไปเสนอข่าวโดยไม่ตรวจสอบจากเรื่องข้าวกล่องเพียงกล่องเดียว สร้างความเสียหายมาก แล้วก็ไปผูกอยู่ว่ามีการทะเลาะกันทำงานไม่เข้าใจกัน ตรงนี้ไม่เป็นความจริงเลย ขณะนี้ยังทำงานร่วมกันอยู่เจ้าหน้าที่จากจีนชุดนี้ก็ยังอยู่ในถ้ำช่วยกันดำน้ำเข้าไปในถ้ำหลวง ที่มีข่าวว่าไม่เข้าใจกันอาจจะเป็นเรื่องของการสื่อภาษา แต่ตอนนี้ยืนยันว่าทำงานด้วยกันดี” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้มีความประสงค์ดี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครจากภาครัฐหน่วยต่างๆ จากต่างชาติเข้ามาช่วยมากมาย อยากจะมาช่วยเหลือตรงนี้ต้องแจ้งเลยว่าไม่ว่าใครจะมาช่วยเหลืออะไรต้องแจ้งผ่านศูนย์ประสานงานและสอบถามคัดกรองทางวิชาการก่อนว่าสิ่งที่จะมาช่วย สามารถนำมาใช้ทำอะไรและจัดสรรในส่วนใดทั้งหมดต้องเป็นไปตามแผนจากศูนย์ปฏิบัติการ ต้องเข้าแผนเดียวกันแบ่งงานแบ่งหน้าที่กันทำ ไม่ใช่ใครจะทำอะไรก็ได้ โดยมีกลุ่มบรรเทาสาธารณภัยเป็นผู้ดูแลคัดกรอง จัดสรร เพราะเข้าใจว่าเมื่อต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญ หากเข้าไปโดยไม่ได้อยู่ในแผนเดียวกันก็จะมีปัญหาทางเทคนิคที่อาจไม่เข้าใจกัน ขณะเดียวกันหากใครจะเอาอุปกรณ์อะไรเข้ามาก็ต้องแจ้งก่อน ไม่สามารถเอาเข้าพื้นที่ได้ ต้องแจ้งกับทางกรมบรรเทาสาธารณภัยที่เป็นเจ้าภาพในการคัดกรองเสียก่อน แล้วจะพิจารณาว่าเอาเข้ามาได้หรือไม่ มันสำคัญอาสาสมัครหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาช่วยเราไม่สามารถดูแลค่าใช้จ่ายใดใดได้ ทั้งเรื่องการเดินทางหรืออุปกรณ์ เพราะเราก็มีอุปกรณ์พออยู่แล้ว ขณะที่หากใครมีทฤษฎีหรือความรู้หรือข้อมูลใดใดขอให้ส่งมาที่ตนหรือศูนย์ประสานงานได้ทันที ที่ผ่านมามีแต่ผู้บอกว่ามีข้อมูล แต่ก็ไม่เห็นใครส่งข้อมูลมาจริงๆ ส่งมาน้อยมาก ตอนนี้เปิดรับทุกองค์ความรู้หรือข้อมูลเพื่อช่วยให้ปฏิบัติการครั้งนี้สำเร็จ

พล.ต.สุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงปฏิบัติการในส่วนของกองทัพว่า จะปฎิบัติการดำน้ำของหน่วยซีลคาดว่าอีกประมาณ 1.1 กิโลเมตร จะถึงเป้าหมาย โดยที่เข้าไปได้ได้วางไกด์ลอร์ด ตั้งถังอากาศได้หมดแล้ว ขณะเดียวกันได้ร่วมปฏิบัติการค้นหาพบว่ามี 2 โพรง ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปได้แล้ว โดยทั้งสองโพรงอยู่ห่างกัน 1 กิโลเมตร เมื่อโรยตัวเข้าไปในโพรงได้ 40 เมตรอีกตรงเข้าไปได้ 50 เมตร เมื่อเจอตรงที่ลึกก็จะใช้อุปกรณ์เจาะไป เพื่อส่งอุปกรณ์ลงไป ตรวจหาพื้นผิวเพื่อทำการเจาะเข้าไปให้ถึงเป้าหมายที่จะเจอเด็กทั้งหมด ขณะเดียวกันก็เพิ่งพบโพรงใหม่อีกหนึ่งโพรง แต่ติดขัดที่การส่งอุปกรณ์การเจาะที่ยังไม่สามารถลำเลียงเข้าพื้นที่ได้

พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กำกับดูแลงานด้านยาเสพติด ยืนยันว่าพื้นที่ถ้ำหลวงฯ ไม่ใช่พื้นที่สีแดงที่เป็นแหล่งพักทางผ่านซุกซ่อนยาเสพติดตามที่สื่อบางแขนงนำเสนอแต่อย่างใด ยอมรับว่าในอดีตเทือกเขาแดนลาว ดอยผาหมี ผ้าฮี้ ผาห่ม เคยเป็นทางผ่านขบวนการยาเสพติดเมื่อสามถึงสี่ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันกองกำลังผาเมืองดูแล แต่ที่แน่นอนคือไม่เกี่ยวกับถ้ำหลวง และที่มีการกล่าวอ้างว่ามีการยึดยาเสพติด 1,000,000 เม็ด ก็เกิดในพื้นที่บ้านน้ำจำบนถนนพหลโยธินมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหนึ่งรายคดีอยู่ในชั้นศาล ไม่มีความเกี่ยวข้องกับถ้ำหลวง ส่วนกรณีที่มีการเสนอถามว่าขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตะเวนชายแดน 16 นาย ออกปฏิบัติการตามหาโพรงถ้ำต้องยกกำลังกลับ เพราะเจอกลุ่มกองกำลัง แล้วไปพูดว่าเด็ก 13 คน ไม่หนีได้อย่างไรนั้นก็เป็นการนำเสนอที่คลาดเคลื่อน ตนได้สอบถามกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 แล้ว ยืนยันว่าเหตุที่ยกกำลังกลับ เพราะเจอทางตันไม่สามารถเจาะเข้าไปได้ผู้บังคับบัญชาจึงให้เปลี่ยนแปลงภารกิจไม่เกี่ยวกับการพบกองกำลังที่ผูกโยงกับยาเสพติดแต่อย่างใด

 

ที่มา : มติชนออนไลน์