เดนท์สุ แนะทางรุ่งใน “ยุคอัลกอริทึม” ธุรกิจจะโตได้ด้วย AI

“เดนท์สุ” แนะทางรุ่งใน “ยุคอัลกอริทึม” ธุรกิจจะโตด้วย AI ที่รู้จริง และ PI ที่รู้ใจ ในงาน dentsu DECODE 2025 ชี้นักการตลาดควรเปลี่ยนจากการมองกลุ่มเป้าหมายแบบ static segments เป็น cultural segments ท่ามกลางพฤติกรรมผู้บริโภคและภูมิทัศน์สื่อปัจจุบัน และ ปรากฏการณ์ zero click search
นายวิสาส์น สิริจันทานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจมีเดีย เดนท์สุ ประเทศไทย กล่าวว่า ในการเติบโตของธุรกิจยุคอัลกอรึทึมซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI ภายใต้การนำทางโดย PI นั้น แบรนด์จะต้องแข่งขันกันในการเปิดมุมมองและสร้างประสบการณ์ใหม่เพื่อสร้างการจดจำ ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์โดดเด่น มีชีวิต เป็นที่ชื่นชอบ ศักยภาพของ AI จะช่วยให้แบรนด์สามารถรับและให้ข้อมูลกับผู้บริโภคได้ตรงจุด ลุ่มลึก คาดเดาในสิ่งที่ผู้บริโภคสนใจและต้องการได้แม่นยำ จนไปถึงขั้น Agentic AI หรือการที่ AI สามารถตัดสินใจและดำเนินการแทนเราได้โดยอัตโนมัติแบบไม่ต้องรอคำสั่ง แบรนด์จะมี AI เป็นเสมือนระบบปฏิบัติการ บริหารจัดการการสื่อสาร การผลิตเนื้อหา
การจัดการข้อมูลไปจนถึงการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าและผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น เมื่อสินค้าที่เราใช้ประจำหมด AI จะสามารถนำเสนอแบรนด์ใหม่ตามข้อมูลที่ AI มีเกี่ยวกับตัวเรา เช่น ความชอบ และพฤติกรรม ความถี่ในการเข้าชมเนื้อหาสินค้าทดแทน ความสนใจของเราในช่วงเวลานั้น ๆ รวมไปถึงจัดการเรื่องการสั่งซื้อ ชำระเงิน จองวันเวลาส่งของ ทำให้เรามีเวลาไปใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้ได้มากขึ้น และสำหรับทีมเดนท์สุ เรามีความพร้อมทั้งเครื่องมือ บุคลากร และพันธมิตรแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยระดมสรรพกำลังพาธุรกิจของลูกค้ารุ่งไปด้วยกันในยุคอัลกอริทึม
เดนท์สุมีเครื่องมือ AI ช่วยทำงานกระบวนการวางแผนด้านสื่อให้กับลูกค้าทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเริ่มมองหาและคาดการณ์โอกาสการเติบโตให้ธุรกิจ ด้วยเครื่องมือ Business Planner และ Audience Builder การมอบประสบการณ์ที่ตรงใจผู้บริโภค ด้วยเครื่องมือ Media Planner, Tag’s Smart Content Management และการวัดผลการทำงาน พร้อมปรับให้ตรงเป้าหมายด้วยเครื่องมือ dentsu Marketing Cloud และ Tobiras เดนท์สุเรียกระบบนิเวศนี้ว่า ”dentsu connect” ซึ่งทำงานบนโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลอัจฉริยะ MERKURY ที่รวมข้อมูลทั้งจากเดนท์สุ จากแพลตฟอร์มพาร์ตเนอร์ เช่น Meta, LinkedIn และอื่น ๆ อีก ในอนาคต รวมทั้งความสามารถในการประสานข้อมูลที่ทางแบรนด์หรือองค์กรเป็นคนเก็บรวมรวบด้วยตนเอง หรือ 1st Party Data เพื่อการทำงานเต็มประสิทธิภาพในระบบนิเวศที่ปลอดภัย
จากภูมิทัศน์สื่อปัจจุบันทำให้ผู้บริโภคเห็น content มากกว่า 5,000 ชิ้นต่อวัน แต่จำได้ไม่เกิน 50 ชิ้น ซึ่งหมายถึงแบรนด์ต่าง ๆ ที่มีการทำ content จะต้องสู้กับ content จำนวน 5,000 ชิ้นให้ได้ และต้องยังโดนใจผู้บริโภคให้จดจำและเกิดการมีส่วนร่วมไปให้ถึง top 50 ซึ่ง AI จึงเข้ามามีบทบาทในการช่วยออกแบบและการกระจาย content ให้ถึงกลุ่มเป้าหมายและถูกใจด้วย เรียกว่าระบบ smart content management ที่เดนท์สุพร้อมให้บริการลูกค้า
สำหรับยุคอัลกอริทึมนี้ การเข้าถึงข้อมูลผ่านการค้นหาทาง AI เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผู้บริโภคหันไปค้นหาผ่าน ChatGPT, Gemini และดูข้อมูลแค่ตรง AI Overviews ของ Google Search เนื่องจากต้องการคำตอบทันที โดยเฉพาะข้อมูลเปรียบเทียบ และข้อมูลที่เหมาะกับความต้องการในเวลานั้น มากกว่าการกดดูทีละเว็บไซต์ตามผลลัพธ์การค้นหาแบบสมัยก่อน จากข้อมูลใน Semrush เมื่อเดือนเมษายน 2568 AI Chatbot Platforms เช่น ChatGPT, Gemini และอื่น ๆ มี Unique Visitors รวมกันกว่า 697 ล้านคนต่อเดือนทั่วโลก
ขณะที่ Google มี Unique Visitors ประมาณ 5,300 ล้านคนทั่วโลก เท่ากับทั่วโลกมีคนใช้งาน AI Platforms คิดเป็น 13% ของผู้ใช้งาน Google ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2567 จำนวนผู้ใช้งานมีไม่ถึง 1% นั่นหมายถึงว่า คนเข้าถึงเว็บไซต์ประเภท AI Chatbot เพิ่มขึ้น 13-15 เท่า ภายในแค่ 1 ปี โดย AI Chatbot ที่นำตลาดอยู่คือ ChatGPT คิดเป็น 80% ของคนใช้ AI Platforms ทั่วโลก คำแนะนำของเดนท์สุ คือ แบรนด์ควรสำรวจสุขภาพด้าน SEO และ AEO (Answer Engine Optimization) ของเว็บไซต์ตัวเอง สำหรับ AEO คือการทำให้ข้อมูลจากเว็บไซต์ของแบรนด์ไปปรากฏบนผลการค้นหาของ AI เช่น ChatGPT, Gemini และ AI Overviews รูปแบบสรุปคำตอบด้านบนสุดของผลลัพธ์การค้นหา
โดยเป็นการดึงข้อมูลมาจากหลายเว็บไซต์มาประมวลจัดเรียงใหม่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงง่ายโดยไม่ต้องคลิกเข้าไปอ่านในเว็บเหมือนเดิม (zero click search) ซึ่งเดนท์สุมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้าน SEO และ AEO รวมทั้งมีเครื่องมือชื่อ Deibu ของเดนท์สุเองสำหรับใช้สำรวจว่ามีการนำข้อมูลบนเว็บไซต์ของแบรนด์ออกมาแสดงผลผ่าน AI หรือไม่ และแสดงผลออกมาอย่างไร แง่บวกหรือลบ เป็นการผสานกันของการทำงานระหว่าง AI และ PI
ด้านนายโอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มด้านการตลาดและนวัตกรรม เดนท์สุ ประเทศไทย กล่าวว่า การใช้ AI ให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด จำเป็นต้องใช้ทักษะของมนุษย์ ในเรื่องอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และศีลธรรมจริยธรรม ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลายองค์กรใช้ AI เข้ามาช่วยเรื่องประสิทธิภาพการทำงานและปัจจุบันกำลังพัฒนาไปในเชิง Agentic AI ซึ่งจะมาตัดสินใจบางอย่างแทนมนุษย์ ดังนั้นในการวางกลยุทธ์ขององค์กรจึงต้องมีการพัฒนาทักษะของบุคลากรเพื่อเสริมผสานสติสัมปชัญญะของมนุษย์เข้าไปด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2568 dentsu global ได้ลงนามใน EU AI Pact หรือโครงการริเริ่มโดยความสมัครใจของคณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อส่งเสริมแนวทางปฏิบัติด้าน AI ที่มีความรับผิดชอบ จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า dentsu ไม่ได้เพียงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการตลาด และสื่อเท่านั้น แต่ยังมุ่งสู่การเป็นผู้นำในการนำ AI ที่มีความรับผิดชอบมาใช้ และสร้างสรรค์อนาคตของ AI ที่มีจริยธรรมในด้านการตลาดด้วย
งาน dentsu DECODE 2025 ในปีนี้ ได้รับการเสริมพลังด้วยความร่วมมือจากหลากหลายพันธมิตร ซึ่งล้วนเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการตลาดโดย DoubleVerify แสดงให้เห็นถึงบทบาทของ AI ในการยกระดับคุณภาพของสื่อ และเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาผ่านการวิเคราะห์และวางแผนแบบเรียลไทม์ด้วย DV Scibids ที่ช่วยเพิ่ม Viewability และ Reach ภายใต้งบประมาณจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ MiQ ร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ด้าน Programmatic Media โดยมอบโซลูชั่นที่ออกแบบเฉพาะสำหรับแคมเปญในทุกช่องทางอย่างแม่นยำ TrueID แพลตฟอร์มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ชั้นนำของไทย
ได้เข้ามาช่วยยกระดับประสบการณ์ด้วยการเล่าเรื่องที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลผ่าน Mobile, Web และ CTV AnyMind แสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ AI ในการไลฟ์สด เก็บข้อมูลผู้บริโภค และสร้างครีเอทีฟแบบ Personalization เพื่อผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และ LoopMe ได้นำความเชี่ยวชาญด้าน AI-Powered Brand Performance มานำเสนอวิธีการที่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้เหนือมาตรฐานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องความร่วมมือทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ dentsu ในการสร้างระบบนิเวศที่ผสาน AI และ PI เข้าด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจในยุคอัลกอรึทึมอย่างแท้จริง
สำหรับ dentsu DECODE เป็นงานสัมมนาประจำปีของเดนท์สุ ประเทศไทย ที่จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่แนวคิด เทคโนโลยี และโซลูชั่น ในด้านการตลาดและการสื่อสาร จากทีมงานเดนท์สุ ประเทศไทย ให้กับลูกค้า พันธมิตร และ สื่อมวลชน เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้อง และผู้สนใจได้เห็นภาพแนวโน้มธุรกิจ และการตลาด รวมทั้งช่วยพัฒนาระบบนิเวศของการแบ่งปันความรู้ให้กับอุตสาหกรรมนี้ในประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรระดับประเทศ และระดับโลก รวมทั้งแบรนด์สินค้าต่าง ๆ