ทีมสอบสวนลงพื้นที่เร่งหาสาเหตุ ฮ.ตกขอนแก่น ผู้เห็นเหตุการณ์เผย “พยายามลงจอดฉุกเฉินก่อนระเบิด”

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรศักดิ์ วัฒนาอุดมชัย นายอำเภอชนบท พร้อมด้วย พ.ต.อ.กีรติกร อมรพัฒน์ภาคิน ผกก.สภ.ชนบท และว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น นำคณะกรรมการสอบสวนจากสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร กระทรวงคมนาคม หรือ AAIC ลงพื้นที่สอบสวนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ที่ บ้านหูลิง หมู่ 2 ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยทำการสูบน้ำออกจากบริเวณหัวเครื่อง ซึ่งเป็นจุดหลักที่เฮลิคอปเตอร์ตก เนื่องจากมีหลุมลึก 1.5 เมตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งกันพื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะจุดหลักที่เฮลิคอปเตอร์ตก ไปจนถึงจุดสุดท้ายที่ชิ้นส่วนเฮลิคอปเตอร์ตกอยู่ รวมพื้นที่กว่า 100 เมตร พร้อมสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด เนื่องจากต้องตรวจสอบรายละเอียดชิ้นส่วนและการยิงพิกัดจีพีเอสทั้งหมด

ว่าที่ ร.ต.อัธยากล่าวว่า เช้าวันนี้สภาพอากาศเปิด คณะกรมการฯได้ประสานขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจาก อบต.วังแสง ในการสูบน้ำออกจากหลุมที่หัวเครื่องของเฮลิคอปเตอร์ตกอยู่ เนื่องจากตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ในพื้นที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อทำการสูบน้ำแล้วเสร็จ จะทำการวัดพิกัดจีพีเอสของชิ้นส่วนของอากาศยานลำนี้ทั้งหมดที่ตกกระจายอยู่ทั่วทั้งบริเวณ และจนถึงขณะนี้ยังคงไม่พบกล่องบันทึกการสนทนาหรือการทำการบิน หรือกล่องดำ ของอากาศยานลำนี้แต่อย่างใด

“วันนี้เข้าสู่ขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญต้องดำเนินการตามขั้นตอน โดยทุกอย่างต้องทำอย่างรัดกุม ละเอียด และเป็นไปตามระเบียบ ซึ่งอาจใช้เวลานานพอสมควร เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ มีเมฆปกคลุม ประกอบกับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้การทำงานของทีมสืบสวนสอนเป็นไปได้ยาก ทั้งนี้ ยังไม่ยืนยันว่าสาเหตุของการเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในครั้งนี้เกิดจากสาเหตุใด เราต้องตรวจสอบทั้งเรื่องอากาศยานที่บริษัทจะต้องแสดงเอกสารหลักฐานของอากาศยานลำนี้ทั้งหมด รวมทั้งเรื่องการบำรุงรักษาอากาศยาน เอกสารเกี่ยวกับนักบินและผู้โดยสาร โดยขณะนี้บริษัทยังไม่มีการติดต่อมายังทีมสืบสวนแต่อย่างใด แต่บริษัทได้ประสานงาร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและญาติของผู้เสียชีวิตแล้ว อีกทั้งในช่วงของการเกิดเหตุนั้นยอมรับว่าทัศนวิสัยในการทำการบินนั้นไม่ดีอย่างมาก” ว่าที่ ร.ต.อัธยากล่าว

ว่าที่ ร.ต.อัธยากล่าวต่อว่า อาจเป็นไปได้ว่ายังคงมีชิ้นส่วนของผู้เสียชีวิต และสิ่งของต่างๆ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะใต้ซากอากาศยานลำนี้ ดังนั้น ยังคงต้องห้ามไม่ให้ผู้ที่มี่ส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด และจากการสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าอากาศยานลำนี้พยายามที่จะลงจอดฉุกเฉินก่อนจะกระแทกกับคันนาและมีระเบิดเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับการเก็บกู้ซากอากาศยานลำนี้ยังคงต้องรอให้การสืบสวนสอบสวนแล้วเสร็จ จึงจะมีคำสั่งเคลื่อนย้ายซากไปได้ เบื้องต้นได้ข้อสรุปในการเก็บรักษาซากอากาลำนี้ไว้ภายในลานจอดส่วนการฝึกบิน ท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น จนกว่าการสืบสวนสอบสวนในภาพรวมจะแล้วเสร็จ

 

ที่มา : มติชนออนไลน์