เดือดร้อนหนัก! ร้องผู้ว่าฯ ปลดผู้ใหญ่บ้าน เรียกรับเงินชาวบ้าน ขับไล่คนคิดต่าง

ชาวลีซอไม่พอใจผู้ใหญ่บ้าน เรียกรับเงินชาวบ้าน ร้องผู้ว่าขับออกตำแหน่ง

วันนี้ (9 สิงหาคม) ที่บริเวณลานด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย ได้มีกลุ่มชาวบ้าน หมู่ที่ 1 ในตำบลห้วยชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย จำนวนประมาณ 80 คน นำโดยนายวิชัย นภาศรี อายุ 46 ปี เลขที่ 122 หมู่ที่ 1 และนายไพรัช แซ่ย่าง อายุ 46 ปี ชาวบ้านในหมู่ที่ 1 ตำบลหัวชมภูเช่นกัน เพื่อมายื่นหนังสือร้องเรียนและตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ ของ นายปรีชา กนกนาฏกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลห้วยชมภู อำเภอเมืองเชียงราย พร้อมสำเนาเอกสารการกระทำความผิดต่างๆ และบัญชีรายชื่อลูกบ้านจำนวน 150 รายชื่อ โดยอ้างว่านายปรีชา มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายประการ ตั้งแต่ ใช้หนังสือตราครุฑของทางราชการ เรียกรับเงินลูกบ้านที่ย้ายมาอยู่ใหม่ รายละ 5000 บาท ถ้าไม่จ่ายก็จะไม่ให้อยู่ โดยอ้างว่าเป็นกฎของหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านหลายคนได้รับความเดือดร้อน มีการเปลี่ยนแปลงโครงการประชารัฐของรัฐบาลโดยเอาลานตากกาแฟของหมู่บ้านที่ได้รับการอนุมัติงบประมาณ ไปเปลี่ยนแปลงจัดทำเป็นสนามฟุตบอล เปลี่ยนแปลงแนวขยายเขตเสาไฟฟ้าของหมู่บ้านไปใช้ประโยชน์ในที่ดินตนเอง นำที่ดินสาธารณะของหมู่บ้าน ไปขายให้กับญาติ นอกจากนี้ยังมีการใช้อิทธิพลไปหรือถอนบ้านของลูกบ้าน รวมทั้งข่มขู่ขับไล่ออกจากหมู่บ้านในกรณีที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากตนเอง รวมถึงมีการรับคนต่างด้าวเข้ามาในหมู่บ้านและปล่อยประละเลยให้เยาวชนมั่วสุมและเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อีกด้วย

นายวิชัย นภาศรีชัย กล่าวว่า ที่ พวกตนมากันในวันนี้ เพื่อต้องการให้ทาง ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบได้รับทราบและลงมาแก้ไข โดยก่อนหน้านี้ได้พากันไปร้องเรียนผ่านทางอำเภอเมือง หลายครั้งแล้วแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งพวกตนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เกิดความแตกแยกและในชุมชน ทำให้พวกตนอยู่กันด้วยความยากลำบาก จึงมาขอพึ่งบารมีของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้ช่วยตรวจสอบ และดำเนินการปลดนายปรีชา กนกนาฏกุล ออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ในตำบลห้วยชมภู เป็นการเร่งด่วนต่อไป

ต่อมาได้ทราบว่า นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ติดภารกิจราชการอยู่ที่อื่น จึงได้มอบหมายให้นายลิขิต มีเสรี หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย ออกมารับเรื่องร้องเรียน ก่อนจะให้ส่งตัวแทน ขึ้นไปประชุมหาทางออกร่วมกันกับ นายกำพล โพธิ์คำ ปลัดอำเภอเมืองเชียงราย ที่เดินทางมาร่วมประชุมแทน นายประเสริฐ จิตพลีชีพ นายอำเภอเมือง ซึ่งติดราชการอยู่ที่อื่นด้วยเช่นเดียวกัน โดยฝ่ายตัวแทนจากกลุ่มชาวบ้านได้เสนอให้มีการลงมติถอดถอนโดยใช้เสียงของประชากรที่อยู่ในพื้นที่จริงประมาณ 300 คนเท่านั้น ซึ่งทางอำเภอได้แจ้งว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากขัดต่อระเบียบของทางราชการ ซึ่งต้องใช้เสียงของประชากรที่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งตามบัญชีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งซึ่งมีอยู่กว่า 500 คน โดยที่ผ่านมาทางอำเภอไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเรื่องดังกล่าวแล้ว และเปิดโอกาสให้มีการยื่นเอกสารในการกระทำความผิดเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย บรรยากาศในการประชุมเป็นไปอย่างตึงเครียด ในที่สุดได้สรุปว่าจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานไปยังนายปรีชา ให้ยอมรับมติการลงชื่อถอดถอนของประชากรในพื้นที่ปัจจุบัน อีกทางหนึ่ง แต่ก็เป็นสิทธิ์ของนายปรีชา ว่าจะยอมตามนี้หรือไม่

ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจจึงพากันเดินทางไปยังจวนผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ตั้งอยู่ถนนธนาลัย อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อขอยื่นหนังสือต่อนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์ ได้พบปะกับชาวบ้านโดยสอบถามจากชาวบ้านก็ทราบเหตุผลว่าต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับเรื่องโดยตรง ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์ ได้รับปากกับชาวบ้านจะเร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมกันนี้ได้รับหนังสือจากชาวบ้านอีกครั้งและแจ้งว่าจะไม่ให้มีการข่มขู่ชาวบ้านโดยหากพบว่ายังมีการข่มขู่ก็ให้แจ้งทางจังหวัดเพื่อแก้ไขโดยทันทีต่อไป ทำให้ชาวบ้านพอใจและสลายตัวในที่สุด

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์