“บิ๊กตู่” ฟุ้งสร้างประวัติศาสตร์ 4 ปี พูด 8 ล้านคำ พ้อยิ่งพูด ยิ่งทำ ยิ่งโดน เผยเป็นนายกฯโกรธใครไม่ได้

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 2 สิงหาคม ที่อาคารชาเลนเจอร์3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานเปิดงานและปาฐกถา “Thailand Industry Expo 2018” ภายใต้แนวคิด “CHANGE to SHIFT เปลี่ยนเพื่อปรับ ยกระดับอุตสาหกรรมไทย” จัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ ระหว่างวันที่ 2-5 สิงหาคม 2561 เพื่อแสดงศักยภาพและยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า นโยบายในต่างประเทศเขาจะมีเรื่องการสร้างงาน จ้างงาน 2-5 แสนคน ไม่ใช่เข้ามาวางนโยบายอะไรก็ไม่รู้ ประกาศนโยบายรัฐบาลออกมาดูเหมือนไม่ได้ทำเพื่อคนทั้งประเทศ นโยบายมันต้องมีแต่ละเรื่องว่าอย่างไร การหาเสียงครั้งต่อไปมันต้องเป็นอย่างนั้น ตนว่าจะไม่พูดแล้วเรื่องการเมือง แต่นี่เป็นเรื่องการทำงานไม่ใช่การเมือง ดังนั้น ทุกคนต้องร่วมกันสนับสนุนการเมืองและประชาธิปไตยที่ถูกต้องมีธรรมาภิบาล

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ตนพูดนอกเรื่องไปบ้าง หวังว่าคงไม่ทำให้ใครเสียอารมณ์ เพราะตนอารมณ์เสียทุกวันอยู่แล้ว แต่ทำงานได้หมดไม่เคยบ่น เป็นนายกฯโกรธใครไม่ได้อยู่แล้ว นายกฯไม่ใช่ศัตรูใคร ก็บ่นพวกเราบ้าง แต่เมื่อเห็นรอยยิ้ม ก็แค่พูดไปขำๆ ไม่มีอะไร ตนยังแข็งแรงอยู่เกิน100เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องกลัวจะเจ็บ อย่างมากก็เป็นหวัดนิดหน่อย ทำความดีไม่ต้องไปกลัวใคร ทำความดีไว้เถอะ ฟังเพลง”คนดีไม่มีวันตาย” ฟังแล้วจะรู้สึก ถ้าใครฟังเพลงอย่างนี้แล้วไม่รู้สึก ตนว่าไม่ได้ ต้องมีความรู้สึกในเพลงหลายๆที่ออกมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายการปาฐกถา นายกฯได้ผู้ที่มาร่วมงานว่า ที่ตนพูดมาทั้งหมดมีใครไม่เห็นด้วยบ้างซึ่งไม่มีใครยกมือ แต่เมื่อถามว่าใครเห็นด้วยปรากฏว่าจึงพากันยกมือเป็นส่วนใหญ่ จากพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า คงไม่เคยมีนายกฯคนไหนบ้าไปถามแบบนี้ เขาหาว่าตนบ้าอำนาจไม่ใช่ ตนต้องการสร้างแนวร่วมทางความคิด 4 ปีที่ผ่านมาไม่เคยพูดอะไรที่ไม่ดี ตนก็วาดความฝันเหมือนกับประชาชน ต้องคิดว่าตนเองเป็นประชาชนต้องอะไรจึงเป็นนโยบายที่ถ่ายทอดออกไปรัฐบาลต้องทำหน้าที่แบบนี้ไม่ใช่อะไรก็ได้ ตนพูดมากขนาดนี้พูดมา 4 ปี มีบางบริษัทถอดคำพูดตนออกมาได้ 8 ล้านกว่าคำไม่สงสารบ้างหรือ ตนพูดไม่ฟังก็ไม่เป็นไร แต่ไปอ่านในหนังสือได้ เพราะนั่นเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศเป็นการทำงานร่วมกันไม่ใช่ประวัติศาสตร์ของตน ไม่มีรัฐบาลไหนมาพูดแบบนี้ตนจำได้ เป็นทหารมา 40 กว่าปี เป็นผบ.ทบ.มา 4 ปีไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนมาพูดอย่างนี้แล้วไม่โดนด่า เรายิ่งพูดยิ่งทำยิ่งโดน ไม่รู้ว่ามันไปมีผลกระทบกับใครอย่างไรหรือเปล่า ตนไม่เข้าใจในการทำแบบนี้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตนขอเวลาเดินดูนิทรรศการขออย่าใช้เวลามาก เพราะตนชักเวียนหัวแล้ว ตั้งแต่เดือนที่แล้วไปต่างประเทศและลงพื้นที่พบประชาชนพูดจนเวียนหัวหมดแล้วตอนนี้ สัปดาห์นี้เปิดไป 4-5 งานแล้ว คนละเรื่องหมดเลยแต่ตนก็พูดได้หมด เพราะตนรู้ทุกเรื่องอ่านทุกเรื่องถ้าไม่อ่านหนังสือไม่รู้เรื่องไม่พัฒนาตัวเองเป็นนายกฯไม่ได้ จำเอาไว้ จะได้คิดทันดอกเตอร์ตนเป็นนักปฏิบัตินักวิชาการคิดมาแล้วตนจะดูว่าอันไหนทำไม่ทำดีไม่ดี วัยนี้ต้องสร้างความเข้าใจ สั่งทุกกระทรวงไม่อย่างนั้นก็ตีกันไปมาวุ่นวายไปหมดและเกิดความความขัดในประเทศ ต่อไปนี้ต้องไม่เกิดขึ้นอีกในประเทศไทย ขอบคุณทหาร-ตำรวจต้องทำหน้าที่ให้ดีเพราะอยู่ในสายตาของทุกคน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนยืนยันไม่ต้องการประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ไม่เคยมีธุรกิจบริษัท เมียตนลูกตนก็ไม่มีใครจะเอาตนไปอ้างไม่มี ส่งข่าวตนให้ด้วยว่าใครไปพบว่าตนสั่งไป เพิ่งเจอเหมือนกันมีบอก “นายกฯเมตตากับครอบครัวผมเสมอมานายกฯให้ผมมาพบรัฐมนตรี แล้วถ้ารัฐมนตรีไหนให้พบรัฐมนตรีนั้นจะต้องถูกปลดทันที แบบนี้ไม่ได้ อ้างกันเยอะแยะไปหมด แล้วก็เชื่อไปสิ รองนายกฯก็โดนเละกันหมด คราวที่แล้วอ้างเรื่องว่าช่วยเหลือคดีได้เสียเงิน5ล้าน ไปเชื่อได้อย่างไรก็ไม่เข้าใจเชื่อได้อย่างไร วันนี้การฉ้อโกงต่างๆก็ยังมีอยู่ ลงทุน 3 พันได้ 3แสนเป็นไปได้อย่างไร ความโลภมันสำคัญ แม้กระทั่งล็อตเตอรี่ยังทะเลาะกันไม่เลิกยังขึ้นศาลอยู่ เดี๋ยวผมจัดการว่าจะทำอย่างไรกับการรวมเล่มล็อตเตอรี่ มันมีวิธีการเดียวเท่านั้น ผมก็คิดของผมไปเรื่อย ถ้าทำอย่างนี้ไม่พอใจเดี๋ยวทำไม่แก้จนกว่าจะพอใจ ท้ายที่สุดทุกคนจะเลิกซื้อล็อตเตอรี่ไปเลยก็ไม่รู้เหมือนกัน ”

 


ที่มา มติชนออนไลน์