พ่อเมืองกาญจน์แจ้งทุกอำเภอพื้นที่ลาดเขา เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มอบหมายให้ นายบวรศักดิ์ วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัด ส่งโทรสารในราชการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ด่วนที่สุดที่ กจ 002 1/ว.123 ถึงประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี นายอำเภอ ผู้อำนวยการอำเภอ ทุกอำเภอ

แจ้งให้เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม กอปรกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศ ปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่

พบว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายจังหวัดมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ศักยภาพในการอุ้มน้ำของดินต่ำลง หากมีปริมาณน้ำฝนสะสมเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลาดเชิงเขา อาจทำให้พื้นที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มพื้นที่เฝ้าระวังได้แก่ เชียงราย ลำพูน พะเยา แพร่ เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี ราชบุรี พังงา กระบี่ และสตูล

เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้ 1.เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ที่มีภูเขาสูงชันพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และพื้นที่ที่เคยเกิดมาก่อนแล้ว

ให้ติดตามข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมในรอบ 24 ชั่วโมง หากมีข้อบ่งชี้จะเกิดภาวะเสี่ยงหรืออันตรายต่อประชาชนให้ดำเนินการแจ้ง และอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย

2.แจ้งประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารสภาพน้ำ สภาพอากาศ อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โดยให้ปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

3.บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมพร้อมทรัพยากร เครื่องจักรกล รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมปฏิบัติงานในการอำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง

4.ใช้ประโยชน์จากหอกระจายข่าวในหมู่บ้าน ในการแจ้งข้อมูลข่าวสารให้แก่ประชาชน ได้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง หากพื้นที่ใดมีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ให้ใช้อุปกรณ์เตือนภัยในพื้นที่เช่นหอเตือนภัย หอเตือนภัยขนาดเล็ก แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่โดยทันที หรือประสานกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในการให้สัญญาณเตือนภัยทางโทรศัพท์หมายเลข 0-2399-4114 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์