ยัน 2 เขื่อนเมืองกาญจน์ไม่วิกฤต ยังรับน้ำได้ แจงต้องระบายน้ำเพิ่ม เพราะฝนหนัก

วันที่ 4 ส.ค. นายประเสริฐ อินทับ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบันวันที่ 4 ส.ค.61 เวลา 07.00 น. อยู่ที่ระดับ 174.00 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นปริมาณน้ำ 15,338.54 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 86.44%
ถ้านำมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์น้ำเมื่อปีที่ผ่านมา อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์มีข้อมูลระดับน้ำอยู่ที่ระดับ 167.98 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นปริมาณน้ำ 13,143.36 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 74.07% ถือได้ว่าปริมาณน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ในวันนี้ได้เพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว 12.37 %
และในสถานการณ์น้ำในปัจจุบันที่ประเทศไทย โดนอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมถึงในจ.กาญจนบุรี

โดยเมื่อวันที่ 3 ส.ค. มีน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์เพิ่มขึ้น 62.39 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนศรีนครินทร์ที่สามารถใช้ได้ 5,073.54 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้ระบายน้ำออกตามแผนการระบายน้ำโครงการชลประทานวันละ 14.96 ล้านลูกบาศก์เมตร

และตอนนี้ยังสามารถรับน้ำได้อีก 2,406.46 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 13.56 % ทำให้มั่นใจได้ว่าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ยังคงสามารถรองรับน้ำฝนได้อีก โดยไม่เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงและปลอดภัยของตัวเขื่อน รวมไปถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชนท้ายน้ำอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เขื่อนศรีนครินทร์ ได้ออกแบบและก่อสร้างตามมาตรฐานสากล โดยมีหน่วยงานด้านตรวจสอบและบำรุงรักษาเขื่อน ทำการตรวจสอบเขื่อน เป็นประจำทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุก 3 เดือน ด้วยเครื่องมือตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อน ที่ติดตั้งไว้กับตัวเขื่อนตั้งแต่การก่อสร้างเขื่อน

และทุก ๆ 2 ปี จะมีการตรวจสอบประเมินความปลอดภัยเขื่อน ตามมาตรฐานเขื่อนใหญ่โลก (ICOLD) โดยคณะกรรมการตรวจประเมินความปลอดภัยของเขื่อน หรือเมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติ เช่น ฝนตกหนักต่อเนื่อง เกิน 48 ชั่วโมง ในขณะที่ปริมาตรกักเก็บมากกว่า 95 % ของความจุอ่างเก็บน้ำที่ระดับกักเก็บปกติ หรือ มีแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางใกล้เคียงกับพื้นที่ กฟผ. จะตรวจสอบเขื่อนในกรณีพิเศษ
โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญการตรวจสอบเขื่อนกรณีพิเศษ จากฝ่ายบำรุงรักษาโยธา เพื่อรายงานและวิเคราะห์ผลที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น

แต่เนื่องจากสถานการณ์น้ำในช่วงนี้ที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเพิ่มการตรวจสอบเขื่อนให้มีความถี่มากขึ้นกว่าเดิม เช่น การตรวจอัตราการซึมของน้ำผ่านตัวเขื่อน การตรวจวัดระดับน้ำในหลุมวัดน้ำ เดิมตรวจสอบสัปดาห์ละครั้ง เป็นตรวจสอบทุกวัน

ส่วนการตรวจสอบ การทรุดตัวและเคลื่อนตัวของเขื่อน จากเดิมไตรมาสละครั้ง เป็นเดือนละครั้ง จึงขอให้ประชาชน มีความมั่นใจ ในความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนศรีนครินทร์
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย หรือได้รับข่าวต่างๆที่ผิดปกติ โปรดสอบถามข้อเท็จจริงโดยตรง ที่ กฟผ.เขื่อนศรีนครินทร์ โทรศัพท์ 034-574001 ต่อ 2110 , 2010 และติดตามเหตุการณ์ทางกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมงที่ http://www.snr.egat.com หรือ Application EGAT Water

ด้าน นายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งมีความจุอ่าง 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับ 155 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยข้อมูล ณ วันที่ 4 ส.ค.61 เวลา 7.00 น. มีปริมาณน้ำในเขื่อน 7,410 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 84% โดย กฟผ.เขื่อนวชิราลงกรณ ปรับแผนระบายน้ำ ตามมติของคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการน้ำ ประชุมเมื่อวันที่ 3 ส.ค.61 มีแผนการระบายน้ำ ดังนี้

วันที่ 4 ส.ค.61 ระบายน้ำเฉลี่ย 36 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน วันที่ 5 ส.ค.61 ระบายน้ำเฉลี่ย 39 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และวันที่ 6-12 ส.ค.61 ระบายน้ำเฉลี่ย 43 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน สาเหตุที่ต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำ เนื่องจากมีปริมาณฝนตกเหนือเขื่อนมาก

จึงจำเป็นต้องระบายน้ำ เพื่อให้มีพื้นที่รับน้ำเพียงพอ ซึ่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,450 ล้านลูกบาศก์เมตร ทางเขื่อนวชิราลงกรณ รับทราบปัญหาผลกระทบของประชาชนและผู้ประกอบการทางด้านท้ายน้ำ และได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา

แต่เนื่องจาก ณ เวลานี้มีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างมากกว่าวันละ 100 ล้าน ลบ.ม. อย่างต่อเนื่อง จึงต้องบริหารจัดการน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้ และถ้าปริมาณน้ำฝนที่ไหลเข้าอ่างลดลงก็จะทำการลดการระบายน้ำลงเท่าที่จะทำได้

ทั้งนี้ กฟผ.เขื่อนวชิราลงกรณ มีการรายงานแผนการระบายน้ำ ให้หน่วยงานราชการในจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี ทราบเป็นประจำทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ หากมีข้อสงสัย หรือได้รับข่าวต่างๆ ที่ผิดปกติ โปรดสอบถามข้อเท็จจริงโดยตรง ที่ กฟผ.เขื่อนวชิราลงกรณ หมายเลข 02-4368739 หรือ 034-599077 ต่อ 3110 , 3111 และติดตามเหตุการณ์ทางกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมงที่ http://www.vrk.egat.com หรือ Application EGAT Water

นายไววิทย์ เปิดเผยต่อว่า ด้านความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน เขื่อนวชิราลงกรณ มีการออกแบบและก่อสร้างตามมาตรฐานสากลโดยมีหน่วยงานด้านบำรุงรักษาเขื่อนฯ ทำการตรวจสอบเขื่อน เป็นประจำทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทุกปี
โดยคณะกรรมการตรวจประเมินความปลอดภัยเขื่อนฯ ทุกๆ 2 ปี หรือ เมื่อมีเหตุการณ์ที่จะส่งผลกระทบกับตัวเขื่อน เช่น ฝนตกหนัก ระดับน้ำในเขื่อนมากกว่า 80% หรือ มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเขื่อนด้วยเครื่องมือวัดที่ติดตั้งไว้ภายในตัวเขื่อนและบริเวณใกล้เคียงทันที เพื่อรายงานและวิเคราะห์ผลทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น จึงขอให้ประชาชน มีความมั่นใจ ในความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน

 


ที่มา ข่าวสดออนไลน์