
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายไพโรจน์ คำทอน ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีการพร่องน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำปราณบุรีซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากมีปริมาณน้ำดิบสะสม 305.575 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือ 78.15% ทำให้มีน้ำในช่วงฤดูฝนมากกว่าเกณฑ์ 70% ของความจุอ่างที่ 31.87 ล้าน ลบ.ม. ล่าสุดพบว่ายังมีฝนตก มีน้ำไหลลงอ่างอีก 8.456 ล้าน ลบ.ม. โครงการต้องพร่องน้ำวันละ 9.187 ล้าน ลบ.ม. คาดว่าปริมาณน้ำดิบจะต่ำกว่าเกณฑ์ 70% ภายในวันที่ 11 สิงหาคมนี้ หากไม่มีฝนตกเพิ่ม สำหรับการระบายน้ำมีการติดตามสถานการณ์จากผลกระทบบริเวณริมฝั่งแม่น้ำปราณบุรี และจะแจ้งให้ฝ่ายปกครองอำเภอปราณบุรีทราบล่วงหน้า หากมีความจำเป็นต้องเพิ่มอัตราการระบายน้ำออกจากอ่าง
นายศักรินทร์ ทุมเสน นายอำเภอบางสะพาน กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั้ง 7 ตำบล โดยแจ้งให้ประชาชนทราบสถานการณ์น้ำเป็นระยะ และสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกแห่งสำรวจเครื่องมืออุปกรณ์กู้ภัยให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ เตรียมจุดรองรับการอพยพประชาชนกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินโดยมีโรงเรียนบางสะพานวิทยาเป็นศูนย์กลาง สำหรับสถานที่ราชการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่หลายปีที่ผ่านมา เช่น โรงพยาบาลบางสะพาน ปัจจุบันมีการยกระดับพื้นในโรงพยาบาลให้สูงขึ้น มีการปรับปรุงระบบไฟฟ้า ประปา และอยู่ระหว่างการสร้างกำแพงล้อมรอบโรงพยาบาล เช่นเดียวกับโรงเรียนอนุบาลบางสะพาน ได้มีการสร้างกำแพงกั้นและขุดลอกคลองบางสะพานแล้ว
“พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อให้การระบายน้ำลงสู่ทะเลเร็วขึ้นในช่วงที่ฝนตกหนัก รวมทั้งการจัดทำแถบสีเหลือง เขียว แดง แจ้งเตือนระดับน้ำไว้ที่ใต้สะพาน เพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อม สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง อ่างเก็บน้ำในพื้นที่ เช่น อ่างเก็บน้ำโป่งสามสิบ อ่างเก็บน้ำวังน้ำเขียว สามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกและมีความมั่นคงแข็งแรง ประกอบกับขณะนี้กรมชลประทานได้ทำการขุดลอกขยายคลองบางสะพานอย่างต่อเนื่องทำให้การระบายน้ำจากทิศตะวันตกออกสู่ทะเลมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายศักรินทร์กล่าว
ที่มา : มติชนออนไลน์