“บิ๊กฉัตร”ยันระบายน้ำเต็มที่ เชื่อท่วมไม่เกิน 50ซม. โต้ข่าวถูกตำหนิรัฐไม่พร่องน้ำไว้ก่อน

“ฉัตรชัย” ยืนยันสั่งเร่งระบายน้ำเต็มที่ลดผลกระทบน้ำทะลักเข้าเมืองเพชรบุรี เชื่อท่วมไม่เกิน 50ซม. ห่วงมรสุมตะวันตกซ้ำเติม วอนสื่อแก้ข่าวหลังถูกปชช.ตำหนิรัฐไม่พร่องน้ำ ชี้ตามเกณฑ์ไม่ใช่สักแต่ระบาย

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 6 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันเดียวกันนี้ตนเองจะเดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำที่เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เนื่องจากเป็นห่วงว่าในช่วงบ่ายวันนี้ (6ส.ค.)ปริมาณน้ำจะใกล้เคียงหรือล้นทางระบายน้ำล้น (สปิลเวย์) ซึ่งช่วงดึกที่ผ่านมาตนเองได้สั่งให้กรมชลประทานเร่งติดตั้งเครื่องระบายน้ำเพิ่มเติมแล้ว โดยคาดจะสามารถควบคุมปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจานเพื่อลดผลกระทบน้ำที่จะลงมาสู่ด้านล่างให้มากที่สุด แต่หากมีน้ำล้นสปิลเวย์ก่อนน้ำจะเข้าเขื่อนเพชร จะมีคลองชลประทาน 2 จุดทั้งซ้ายและขวา รวมถึงคลองD9 ที่เป็นคลองธรรมชาติช่วยระบายน้ำ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ขยายคลองดังกล่าวตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งล่าสุดแล้วเสร็จเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยวันนี้ตนเองจะลงพื้นที่ไปดูคลองดังกล่าวหากใช้งานได้ก็จะระบายน้ำผ่านจุดนี้ด้วย ดังนั้นเมื่อมีการระบายน้ำเต็มที่ใน 3 จุดที่กล่าวมาแล้ว คาดว่าจะระบายได้ 90 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำที่มาจากเขื่อนแก่งกระจานถึงเขื่อนเพชรจาก 240-250 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลงเหลือ 160 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ช่วยลดผลกระทบได้มากพอสมควร

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ขณะเดียวกันในจุดอำเภอบ้านแหลมเมื่อปีที่ผ่านมาได้มีการสั่งให้ทหารขุดลอกคูคลองเพื่อช่วยในการระบายน้ำ เชื่อว่าจะสามารถช่วยระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยได้อีกทางหนึ่ง จึงขอลงไปดูในพื้นที่จริงก่อน และจะสั่งการในวันนี้เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในตัวเมืองเพชรบุรีให้มากที่สุด แต่สิ่งที่กังวลคือจะมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เข้ามาในช่วง 2-3 วันนี้จะส่งผลกระทบต่อภาคตะวันตกของไทย ทั้งนี้เชื่อว่า หากน้ำท่วมจริงจะไม่ท่วมสูงตามที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน แต่จะท่วมอยู่ในระดับ 50 เซ็นติเมตร หรือในบางพื้นที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำก็อาจจะมากกว่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีชาวบ้านบางส่วนตำหนิว่ารัฐบาลไม่เตรียมพร่องน้ำไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้น้ำมีปริมาณมากนั้น พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า สื่อมวลชนต้องไปแก้ข่าวด้วย เพราะตลอด 1 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลมีการพร่องน้ำตามเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ (Rule Curve)เพื่อป้องกันน้ำท่วมและภัยแล้ง เพราะหากระบายน้ำมากเกินไปก็อาจจะเกิดสถานการณ์ภัยแล้งได้

“แต่ในช่วงที่ผ่านมาน้ำจากเทือกเขาตะนาวศรีเข้ามาในเขื่อนแก่งกระจานสูงถึง 100 ล้านลบ.ม.ต่อวินาที ภายในวันเดียวจากเดิมที่เข้ามา 6-7 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที ชาวบ้านพูดไปเพราะความไม่รู้ หากระบายน้ำมากเกินไปแล้วหน้าแล้งไม่มีน้ำใช้จะทำอย่างไร ไม่ใช่สักแต่ระบาย ต้องดูหลักวิชาการ ระบายตามหลักRule Curve ทั้งหมดและเมื่อเกิดวิกฤตเราก็ต้องแก้ไขกันไป ยืนยันว่าตนดูเองสั่งการเองทั้งหมด” พล.อ.ฉัตรชัย

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ขณะที่สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงปริมาณน้ำเริ่มดีขึ้น แต่ในพื้นที่ลุ่มต่ำยังมีปัญหา โดยได้สั่งให้รายงานสถานการณ์ตลอด ขณะเดียวกันเขื่อนน้ำอูนก็ได้สั่งเฝ้าระวังตลอดเวลา ส่วนภาพรวมสถานการณ์น้ำทั้งประเทศรัฐบาลจะดูแลเต็มที่ โดยจะมีศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะติดตามตลอด 24 ชั่วโมง หากมีสถานการณ์น้ำที่น่าเป็นห่วงจะรายงานมายังรัฐบาลทันที

เมื่อถามว่า จะพูดได้ว่าเอาอยู่หรือไม่ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า “จะใช้คำว่าเอาอยู่ก็คงไม่ดี เอาเป็นว่าดูแลเต็มที่”

 

ที่มา มติชนออนไลน์