สั่งปรับแนวกั้นสร้างรถไฟฟ้า เพิ่มช่องจราจร แก้ปัญจราจรลาดพร้าวติดจนร้องขอชีวิต!

จากกรณีปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนลาดพร้าว(ขาออก) ที่วางแนวการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามหารือเรื่องการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.)มีการประชุมแก้ไขปัญหาการจราจร ถนนลาดพร้าว โดยมีพล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.) เป็นประธานการประชุมพร้อมด้วยพล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร(ผบก.จร.) และอีกหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่าจากกรณีปัญหาที่ผ่านมาพบว่าการจราจรบริเวณดังกล่าวจากถนนลาดพร้าว(ขาออก)ได้ส่งกระทบต่อการจราจรในหลายพื้นที่ ได้พยายามหารือกับผู้รับเหมาก่อสร้างไว้แล้วเรื่องการถอนแนวกั้นก่อสร้างออกไปให้เหลือ 3 ช่องจราจรในช่วงที่มีการใช้รถประจำทางหนาแน่น ได้เปลี่ยนแนวกั้นเป็นพลาสติกให้สามารถปรับเคลื่อนย้ายได้ง่าย

ส่วนวันนี้ที่พยายามหารือกันคือแนวทางการใช้ทางเลี่ยงและให้ประชาขนใช้เส้นทางลัดเพื่อแก้ไขปัญหา ได้สำรวจไปเมื่อเช้านี้คือซอยรัชดาภิเศก 32 และ รัชดาภิเศก 36 เนื่องจากสองเส้นนี้จะสามารถเชื่อมเป็นซอยลัด ต่อไปถนนลาดพร้าววังหิน ซึ่งเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวไปตามซอย นอกจากนี้ยังต้องตัดเพิ่มจุดเลี้ยวอาจต้องมีการเจาะเกาะกลางตรงวิภาวดี เพิ่มจุดกลับรถเดิมตรงปั้มน้ำมันเชลล์รัชดาภิเศก 30 ที่ไม่เพียงพอ ให้สามารถตัดทางเข้ารัชดาภิเศก 32 ได้เลย และมีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของสน.สุทธิสารที่ประจำอยู่บนเชิงสะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว ให้วางกรวยตลอดแนวเพื่อไม่ให้รถที่ใช้ทางขวาปาดเข้าคู่ขนานด้านซ้ายแทนการขึ้นสะพาน ซึ่งทำให้เกิดปัญหา คือคู่ขนานด้านซ้ายก็ไม่สามารถขยับตัวได้ รถที่ตั้งใจวิ่งทางขวาก็จะไม่สามารถขึ้นสะพานไปรัชโยธินได้

“ส่วนการควบคุมอีกจุดคือใต้สะพานข้ามแยกรัชดาตัดไปลาดพร้าว ซึ่งตรงนั้นถ้าเข้าไปลาดพร้าวขาออกไม่ได้ เราจะติดป้ายห้ามเลี้ยวขวาชั่วคราวที่เส้นทางรัชดาขาออกที่จะเลี้ยวขวาไปลาดพร้าวขาออก ให้ประชาชน ตรงไปและกลับรถตรงจุดกลับรถปั้มเชลล์และค่อยวนกลับมาใหม่ เพื่อสามารถให้ช่วงรัชดาขาออกขยับตัวได้คนที่จะขึ้นสะพานก็จะขึ้นไปได้ ส่วนบริเวณลาดพร้าวขาออกที่มาจากปากทางลาดพร้าวตรง 5 แยกลาดพร้าวที่ไม่สามารถตรงไปได้ เราแนะนำให้เลี้ยวซ้าย และไปใช้จุดกลับตัวเพื่อไปเข้าซอยรัชดา 32 ก็จะสามารถบรรเทาได้ส่วนหนึ่ง”พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าว

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวต่อว่าเราได้สั่งการกับสน.พหลโยธิน และสน.สุทธิสารแล้ว ส่วนแยกต่างๆมีการเตรียมความพร้อมทั้งบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว วิภาวดี บางซื่อ และถนนพหลโยธินขาออก ซึ่งได้ประชุมกันตั้งแต่เมื่อเช้า ซึ่งหลังจากเข้าไปประชุมวันนี้ก็จะฟังว่ามีมาตรการอะไรเพิ่มเติม นอกจากนี้อีกด้านคือการเจรจากับศูนย์การค้าบิ๊กซีลาดพร้าว ซึ่งมีถนนคู่ด้านในเพื่อขอความร่วมมือในการปรับให้รถเมล์วิ่งเข้าไปรับผู้โดยสารด้านในได้ เพราะมีระยะความยาว 150 เมตร รถประจำทางสามารถเข้าได้สบาย

“ผมคิดว่าอนาคตต้องหนักกว่านี้ เพราะแนวก่อสร้างยังไงก็ต้องปรับกินเลนเข้ามาแต่วันนี้เราจะต้องต่อรองให้เขาถอยไปก่อน ตรงบริเวณหน้าห้างให้ถอนไปเหลือไว้3เลน แต่เมื่อเลยไปหน่อยค่อยปรับเป็น2เลน ซึ่งช่วงที่มีรถประจำทางหนาแน่นตรงนี้เราขอไว้ให้เป็น 3 เลนสำหรับสัปดาห์นี้ และถ้าภายในสัปดาห์นี้เจรจากับทางห้างเพื่อขอใช้พื้นที่ด้านในได้ ผมว่าจะบรรเทาได้เยอะ”


พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวต่อว่าวันที่ 7 สิงหาคม ได้มีการนัดทุกหน่วยงานมาประชุมทั้งกทม. และ สำนักการจราจรขนส่ง(สจส.) เพื่อมานั่งวางแผนกันว่าจะเจาะเกาะกลางเพิ่มจุดกลับรถได้หรือไม่ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่โยธาธิการ เห็นด้วยก็คงดำเนินการได้เลย เพราะตอนนี้เป็นลักษณะของการบูรณาการทุกหน่วยงานแล้ว และจะมีการประชุมกันทุกวัน เพราะแนวรถไฟฟ้าเป็นเรื่องใหญ่ของคนในกรุงเทพ ปัจจัยที่ทำให้รถติดมีได้ทุกวัน เพราะดังนั้นจึงยืนยันได้ว่าเรื่องนี้เราจะพยายามทำอย่างต่อเนื่องในทุกวัน