ทันใจ!! ‘สกสค.’ ลุ้นอีกหมื่นล.หลัง ‘ออมสิน’ ทยอยคืนล็อตแรกแล้ว 2 พันล้าน

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยความคืบหน้าภายหลัง สกสค.บรรลุข้อตกลงร่วมกับธนาคารออมสิน ใน 4 ประเด็นหลักๆ ว่า กรณีธนาคารออมสินยอมคืนเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท ที่หักจากเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ชำระหนี้แทนผู้กู้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไป

ขณะนี้ธนาคารออมสินได้คืนเงินแล้ว 2,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำมาทยอยคืน แต่จะได้รับเงินครบ 1 หมื่นล้านบาทหรือไม่นั้น สกสค.และธนาคารออมสิน ต้องไปศึกษารายละเอียดย้อนหลัง โดยจะศึกษาเป็นรายกรณีไปว่าข้อตกลง และหลักการจ่ายเงินสนับสนุนเป็นอย่างไร หากกรณีไหนที่ สกสค.ตรวจสอบพบว่าการดำเนินการหักเงินของธนาคารไม่ถูกต้อง สกสค.สามารถใช้สิทธิเรียกคืนเงินจากธนาคารได้ แต่กรณีที่ธนาคารทำตามขั้นตอน และครูยังไม่จ่ายเงินคืน ธนาคารจะทวงหนี้ตามปกติ

“ขณะนี้ สกสค.ได้รับเงินคืนจากธนาคารแล้ว 2,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารได้ส่งเงินคืนให้กับ สกสค.โดยตรง การดำเนินงานขั้นต่อไป ผมจะนำเรื่องนี้ไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.ที่มี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ประธาน เพื่อพิจารณาว่าจะใช้เงินดังกล่าวพัฒนาคุณภาพชีวิตครูในด้านใดบ้าง” นายพินิจศักดิ์ กล่าว

นายพินิจศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนกองทุนเงิน ช.พ.ค.ที่ธนาคารนำเงินส่วนนี้มาค้ำประกันการกู้เงินของครู ซึ่งหลายฝ่ายอยากให้เงินก้อนนี้ตกแก่ลูกหลานภายหลังผู้กู้เสียชีวิตนั้น ทราบว่าธนาคารออมสินพร้อมที่จะให้ครูนำเอาทรัพย์สินอื่นมาค้ำประกันแทนกองทุนเงิน ช.พ.ค.เช่น บ้าน รถ ที่ดิน เป็นต้น ซึ่งธนาคารได้ดำเนินการให้ครูสามารถปรับเปลี่ยนหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ตลอดเวลาตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา” นายพินิจศักดิ์ กล่าว

นายพินิจศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนการทำประกันภัยที่ต่อไปจะมีครูบางส่วนที่กรมธรรม์จะครบตามสัญญานั้น ธนาคารออมสินยินดีให้ สกสค.เป็นตัวกลางหาบริษัทประกันภัยอื่นๆ ให้ได้มากกว่า 1 บริษัท ที่ดี และถูกที่สุด เพื่อเป็นข้อเสนอช่วยเหลือผู้กู้ ให้ผู้กู้สามารถเลือกบริษัทประกันได้ตามความต้องการ
ด้านนายอวยชัย วะทา ประธานเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีธนาคารออมสินได้คืนเงินที่หักจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ให้กับ สกสค. 2,000 ล้านบาท หรือให้ครูนำหลักทรัพย์อื่นมาใช้ค้ำประกันแทนกองทุนเงิน ช.พ.ค.และหาบริษัทประกันภัยใหม่ ตนมองว่าการแก้ไขปัญหาของ สกสค.และธนาคารออมสิน เป็นแก้ไขปัญหาปลายเหตุเท่านั้น

“การที่ธนาคารประกาศให้ครูนำทรัพย์สินอื่นมาค้ำประกันแทนเงินกองทุน ช.พ.ค.ได้ ผมคิดว่าคงมีครูส่วนน้อยที่ไปเปลี่ยนหลักทรัพย์ค้ำประกันกับธนาคาร อย่าลืมว่าครูบางคนไม่มีบ้าน ไม่มีรถ จึงกู้เงินเพื่อมาซื้อ หรือผ่อนบ้าน และรถ จะเป็นไปได้หรือที่ครูจะนำทรัพย์สินที่ยังผ่อนไม่หมดมาค้ำประกันแทน ส่วนบริษัทประกันภัย ที่ต่อไปจะเพิ่มบริษัทประกันภัยอื่นๆ เข้ามา จากเดิมที่มีแต่บริษัททิพยประกันภัย ผมมีข้อสงสัยว่าครูจำเป็นต้องทำประกันหรือไม่ เพราะมีโครงการกองทุน ช.พ.ค.และสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) คอยช่วยเหลืออยู่แล้ว อีกทั้ง ระยะเวลาที่ทำสัญญาประกันทำไมต้องใช้เวลา 9 ปี ทำไมไม่ทำสัญญา 10 ปี และเงินประกันครูไปไหน ครูจะได้รับเงินหลังจากครบสัญญาแล้วหรือไม่ เป็นต้น” นายอวยชัย กล่าว

นายอวยชัยกล่าวอีกว่า ขณะนี้เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทยกำลังรวบรวมรายชื่อครูที่ได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบจากปัญหาหนี้สิ้นครู ภายในสิ้นเดือนนี้จะรวบรวมเป็นหนังสือเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และจะเสนอให้คณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อขอให้แต่งตั้งกรรมการร่วมกันระหว่างภาครัฐ และองค์กรครู เพื่อแก้ไขหนี้สิ้นครูต่อไป

 

ที่มา มติชนออนไลน์