“ธนะศักดิ์” ประชุมจัดนิทรรศการ ‘งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9’ เริ่ม 1-30 พ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครั้งที่ 2 โดยมีท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ ประจำสำนักพระราชวังพิเศษ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการวธ. นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมประชุม โดย พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ฝ่าย ดังนี้ 1.คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 2.คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ 3.คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดแสดงมหรสพระหว่างการจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยมีอธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธาน 4.คณะอนุกรรมการฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการ โดยแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธาน 5.คณะอนุกรรมการบริหารจัดการในคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ มีรัฐมนตรีว่าการวธ. เป็นประธาน

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการอำนวยการความสะดวกแก่ประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการ จะใช้แนวทางการเดียวกับการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เข้ากราบพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวัง โดยจะแบ่งเป็นเด็กและเยาวชนประชาชนทั่วไป และผู้ต้องการใช้เครื่องช่วย อาทิ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ใช้รถเข็นนั่ง นอกจากนี้จะเพิ่มชาวต่างชาติ โดยการเข้าชมไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งเน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญ แต่ที่มีการเพิ่ม คือ ระหว่างรอเข้าชมจะมีการจัดแสดงมหรสพบนเวทีมหรสพ จะยังไม่ดำเนินการรื้อ เพื่อให้บรรยากาศเหมือนงานพระราชพิธี สำหรับนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ กำหนดจัดวันที่ 1 – 30 พฤศจิกายนนี้ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการบริหารจัดการในคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีจะทำหน้าที่ประสานกับแต่ละชุด นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการอนุมัติงบประมาณในการดำเนินงานในส่วนที่พร้อม รวมถึงปรับเพิ่มกิจกรรมให้เหมาะสมและครอบคลุม รวมถึงชื่อนิทรรศการที่เข้าใจง่าย ลึกซึ้ง และสั่งการให้แต่ละหน่วยงานต่างๆ ที่ยังไม่พร้อมส่งงบประมาณภายใน 15 วัน และจะประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งต่อไปในวันที่ 13 กันยายน เพื่อสรุปและเสนองบประมาณ รายงานต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยแนวทางใช้งบประมาณอย่างประหยัด เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

“การจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีกำหนด 30 วัน ผมให้แนวทางเวลาเข้าชม รอบแรกเวลา 07.00 รอบสุดท้ายเวลา 23.00 น. โดยจัดเป็นรอบๆ อาจจะรอบละ 500 คน รอบต่อไปห่างกัน 10 นาที โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนได้เข้าชม และได้ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปวัดก้าว วัดจุดที่น่าสนใจ และจุดถ่ายภาพ เพื่อคำนวณการใช้เวลาในการเข้าชมนิทรรศการ ผมมั่นใจว่าจะมีผู้เข้าชมมากกว่า 3 ล้านคน เพราะระยะเวลาจำกัด ทุกคนจะมุ่งมาเข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการ จะรองรับประชาชนให้ได้มากที่สุด มีการเพิ่มแพทย์และพยาบาลภาคสนาม ซึ่งเมื่อจัดนิทรรศการเสร็จแล้วทุกคนจะซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.9 เกิดความรักและสามัคคี เป็นนิทรรศการจัดโดยประชาชน เพื่อประชาชน น้อมถวายพระองค์ท่าน โดยเดือนกันยายนนี้จะเห็นแผนงานที่เรียบร้อย การบ้านที่สำคัญอีกข้อที่ให้แต่ละหน่วยงานมีเวลา 3 วันหรือ 72 ชั่วโมง ที่จะเคลื่อนย้ายนิทรรศการทั้งหมดเข้าพระเมรุมาศ เพื่อเปิดให้ประชาชนเข้าชมวันที่ 1 พฤศจิกายน” พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว

นายวีระ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนส่วนใหญ่จะมุ่งชมพระเมรุมาศเป็นหลัก ในครั้งนี้การนำชมจะเน้นนำระบบคิวอาร์โคดมาใช้เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย สำหรับผู้พิการที่มาร่วมชม จะมอบให้กรมศิลปากรจำลองพระเมรุมาศ อาคารประกอบมาไว้ที่ศาลาลูกขุน เพื่อให้ผู้พิการตาบอดสามารถลูบคลำได้ รวมถึงทำอักษรเบลล์ ทางลาดขึ้นลงอาคารต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกด้วย ส่วนการจัดให้เข้าชมอาจจะต้องจัดเป็นรอบๆ แต่รอบละกี่คนนั้นยังไม่มีข้อสรุป ทั้งนี้ นิทรรศการในครั้งนี้ต้องให้ประชาชนที่มาชมนิทรรศการได้รับความรู้ เห็นความงดงามของศิลปะไทย และได้เห็นว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงานหนักเพียงใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ วธ.ได้จัดทำต้นฉบับแผ่นพับนำชมนิทรรศการเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจะพิมพ์ 9 แสนแผ่นเป็นภาษาไทย และกำลังพิจารณาจัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีนสำหรับชาวต่างชาติด้วย ตลอดจนกำลังพิจารณาว่าจะมีของที่ระลึกมอบให้ประชาชนด้วยหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้ข้อสรุปชัดเจนเสนอที่ประชุมคราวหน้า

นายอนันต์ กล่าวว่า นิทรรศการแสดงพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจในหลวง ร.9 ตลอดจนงานภูมิสถาปัตย์โดยรอบพระเมรุมาศ เช่น นาข้าว กังหันชัยพัฒนา จะนำมาจัดแสดงภายในพระที่นั่งทรงธรรม ในส่วนนิทรรศการที่เกี่ยวกับการก่อสร้างพระเมรุมาศทั้งหมด จะจัดแสดงภายในอาคารประกอบต่างๆ เช่น ศาลาลูกขุนอีก 2 หลัง รวมถึงจะมีการสาธิตขั้นตอนในการจัดสร้าง การหล่อ การปั้น มีการจัดทำทางลาดอำนวยความสะดวกด้วย ขณะเดียวกัน ในส่วนการจัดแสดงมหรสพนั้น จะมีการแสดงเหมือนวันพระราชพิธีจริง เพียงแต่อาจจะมีการตัดทอนบางช่วง บางตอน ทั้งนี้ มหรสพที่แสดงที่เวทีภายนอกมณฑลพิธีนั้น รองนายกฯแนะนำให้นำการแสดงที่หลากหลายจากหน่วยงานอื่นๆ มาจัดแสดงให้ประชาชนรับชมระหว่างรอเข้าชมนิทรรศการด้วย

พล.ต.ธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนจะใช้รูปแบบเดียวกับที่กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวังจัดคิวแก่ประชาชนที่เข้ากราบพระบรมศพ มีจุดพักคอยและจัดคิว แต่ในครั้งนี้ไม่มีที่พักคอยอย่างเพียงพอ การบริหารจัดการต้องปรับใหม่ โดยจะต้องหารือกับคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ จะต้องทราบระบบภายใน จุดถ่ายภาพ จุดเดินผ่าน โดยกำหนดเป็นช่วงเวลา โดยมีเจ้าหน้าที่แนะนำ เชิญคิวต่อไปจนกระทั่งถึงทางออก โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลาปิด ซึ่งกำหนดเวลาปิดอาจจะดูปริมาณผู้เข้าชมในแต่ละวัน จะพยายามไม่ให้ประชาชนเสียใจที่ไม่ได้เข้าชม และสามารถเข้ามาชมได้ไม่จำกัดครั้ง และมีจิตอาสาคอยอำนวยความสะดวก ทั้งเก็บขยะ แจกจ่ายน้ำ แจกจ่ายร่ม จิตอาสาอำนวยความสะดวกนำพาคน จะวางแนวทางเช่นกัน

 

ที่มา มติชนออนไลน์