
วันที่ 11 สิงหาคม บริเวณด้านหน้าสวนจตุจักร กรุงเทพมหานคร พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีรื้อถอนเสาไฟฟ้า ถนนมหานครแห่งอาเซียน โครงการถนนพหลโยธิน โดยมี นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมในพิธี
สืบเนื่องจากการพัฒนาระบบโทรคมนาคมในประเทศไทยที่ส่งผลให้มีสายสื่อสารเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดปัญหาการพาดสายสื่อสารที่รกรุงรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ตลอดจนทัศนียภาพ และภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่ง กฟน. ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้า ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาการสื่อสาร จึงได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดินระหว่าง 5 หน่วยงาน คือ กฟน. กทม. กสทช. สตช. และสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อร่วมกันนำร่องบูรณาการนำสายสื่อสารลงใต้ดินโครงการถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้ดำเนินการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินแล้ว
สำหรับการนำสายสื่อสารลงท่อร้อยสายใต้ดิน ได้นำเทคโนโลยี Air Blown System หรือการร้อยสายสื่อสารด้วยแรงดันลมมาใช้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพ สามารถร้อยสายสื่อสารด้วยความเร็ว 100 เมตร/นาที มีระยะทางการควบคุมได้ไกลกว่า 4 กิโลเมตร
ในส่วนแผนการดำเนินงาน กฟน. ได้กำหนดการรื้อถอนเสาไฟฟ้า โครงการถนนพหลโยธิน (5 แยกลาดพร้าว – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) แบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 : 5 แยกลาดพร้าว – คลองบางซื่อ (1-15 ส.ค.60) ระยะที่ 2 : ถนนประดิพัทธ์ (16-31 ส.ค.60) ระยะที่ 3 : ถนนบางซื่อ – ซอยพหลโยธิน 7 (1-15 ก.ย.60) และระยะที่ 4 : ซอยพหลโยธิน 7 – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (16-30 ก.ย.60) โดยสำหรับเสาไฟฟ้าในโครงการที่รื้อถอนแล้วรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 800 เสา กฟน.ได้มอบให้ กทม. เพื่อใช้สนับสนุนการดำเนินโครงการปลูกป่าในใจคนตามศาสตร์พระราชาของกรุงเทพมหานคร ในการช่วยฟื้นฟูและป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลกรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน เป็นระยะทางประมาณ 4.7 กิโลเมตร
ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการฯ ดังกล่าว สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center โทร 1130 ตลอด 24 ชั่วโมง