ป.ป.ท.ลุยภูเรือ ยึดที่ดินกว่า 2,700 ไร่ พบผู้ครอบครองเป็นศิษย์ธรรมกาย พร้อมคืนทั้งหมด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 สิงหาคม ที่ว่าการอำเภอภูเรือ จ.เลย พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วย พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลย (กอ.รมน.จว.เลย) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลย.7 (ภูเรือ) อำเภอภูเรือ และสถานีตำรวจภูธรอำเภอภูเรือ ร่วมประชุมหารือ และปฏิบัติการลงพื้นที่โดยอาศัยอำนาจตามคำสั่ง คสช.ที่ 69/2557 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2557 เพื่อตรวจสอบเรื่องร้องเรียนกรณีการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3 ก) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในท้องที่ตำบลปลาบ่า และตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย โดยมีการนำแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ซึ่งอยู่ในท้องที่ตำบลโพนสูง อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย มาออกในท้องที่อำเภอภูเรือ ตั้งแต่ปี 2533 รวมจำนวน 63 แปลง เนื้อที่ 2,777-3-21 ไร่

พ.ท.กรทิพย์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่สำนักงาน ป.ป.ท.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบในเขตพื้นที่ป่าภูเขาหนองปาด (ภูพ้อย) อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย เมื่อปี 2560 ต่อมาได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า ยังมีที่ดิน นส.3 ก จำนวน 63 แปลง เนื้อที่ 2,777 ไร่ ในพื้นที่ดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ

พ.ท.กรทิพย์กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการนำ ส.ค.1 จากพื้นที่อื่นมาเป็นหลักฐานในการออกเอกสารสิทธิจำนวน 31 แปลง ส่วนอีก 32 แปลง ไม่ปรากฏสารบบการออก นส.3 ก ซึ่งที่ดินบริเวณดังกล่าวมีมูลค่าในการซื้อขายแปลงละประมาณ 150,000 บาท มูลค่ารวม 416.5 ล้านบาท

“มีการแจ้งครอบครองสิทธิตั้งแต่ปี 2498 ชึ่งจากการตรวจสอบพบว่าชื่อ นายเลย ศรีบุรินทร์ ทั้งนี้หากว่ายังมีชีวิตอยู่มีอายุกว่า 100 ปี แต่เจ้าหน้าที่ได้พบกับนายเลย และสอบปากคำจึงพบว่า นายเลยมีอายุเพียง 66 ปี” พ.ท.กรทิพย์กล่าว

พ.ท.กรทิพย์กล่าวว่า ในส่วนของคดีอาญา การตรวจสอบเบื้องต้นคดีอาญาได้ขาดอายุความลงแล้ว ไม่สามารถเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ เนื่องจากผ่านมา 27 ปีแล้ว เบื้องต้นได้รับการแจ้งเจตจำนงเป็นลายลักษณ์อักษรว่ามีความประสงค์ที่ทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ พบว่าที่ผ่านมามีการนำที่ดินดังกล่าวไปให้ชาวบ้านเช่าทำกินทางการเกษตร ปลูกข้าวโพด

ADVERTISMENT

พ.ท.กรทิพย์กล่าวว่า หลังจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ท.จะรายงานผลการตรวจสอบไปยังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแจ้งให้กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดินในการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกโดยมิชอบกลับคืนเป็นสมบัติของชาติต่อไป

รายงานข่าวระบุว่าจากการตรวจสอบพบว่าในจำนวนกว่า 1,300 ไร่ เป็นชื่อของนายทุน ช . และอีก 1,400 ไร่ก็มีชื่อนายทุน ช.ร่วมครอบครองที่ดิน ดังนั้น นายทุน ช.จึงมีชื่อครอบครองทั้งหมด 2,777 ไร่

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ยังพบว่า ผู้ครอบครองตามเอกสารสิทธิทั้งหมดกว่า 2,777 ไร่นั้น เป็นศิษย์ผู้ศรัทราในวัดพระธรรมกาย และเคยบริจาคที่ดินให้วัดพระธรรมกายจำนวนหลายแปลง แต่ครั้งนี้แสดงเจตจำนงจะคืนที่ดินให้ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฟังบรรยายการดำเนินการ เจ้าหน้าที่พร้อมคณะได้เดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมีความลาดชัน สำหรับพื้นที่ในปัจจุบันมีการปลูกข้าวโพด และส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่า อีกทั้งยังเป็นชะง่อนผาไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้

 

ที่มา : มติชนออนไลน์