“ศรีสุวรรณ”จี้กลาโหมเอาผิดกรมแพทย์ทหารเรือโค่นต้นไม้หวงห้าม-รื้อทำลายสนามหญ้า

เมื่อวันที่ 9 กันยายน นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า สมาคมได้ตรวจสอบพบว่า กรมการแพทย์ทหารเรือ (พร.) ได้จัดจ้างซ่อมแซมสนามกีฬา กรมแพทย์ทหารเรือ (ความจริงต้องเรียกว่า รื้อทำลายทิ้ง) จากเงินภาษีประชาชนวงเงิน 20 ล้านบาท โดยเริ่มงานมาตั้งแต่ 19 มิถุนายน 2561 และจะไปสิ้นสุด 16 ตุลาคม 2561 นั้น ซึ่งการซ่อมแซมสนามกีฬาดังกล่าว ได้ทำลายสนามหญ้า ทำลายลู่วิ่ง ซึ่งยังมีสภาพที่ดีสมบูรณ์อยู่แล้วทิ้งทั้งหมด เพื่อจัดทำขึ้นมาใหม่ อันเป็นการใช้เงินงบประมาณอย่างสิ้นเปลือง ไม่ประหยัด ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงแต่อย่างใด นอกจากนั้นยังได้โค่นทำลายต้นไม้หวงห้ามขนาดใหญ่ประเภท ก. ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 ไปมากกว่า 30 ต้น และแต่ละต้นมีอายุหลาย 10 ปี ความสูงมากกว่า 10-20 เมตร โดยไม่มีการขุดล้อมหรือบอนล้อมนำไปปลูกยังที่อื่นแต่อย่างใด อาทิ ต้นประดู่แดง ต้นประดู่เหลือง ต้นนนทรี ต้นปีป ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ เป็นต้น ซึ่งต้นไม้เหล่านี้ให้ดอกที่สวยงาม ให้ร่มเงาความร่มรื่นแก่คนป่วย ประชาชน พนักงานลูกจ้างและข้าราชการกรมแพทย์ทหารเรือมาอย่างยาวนาน หลายคนเห็นการใช้รถแทรกเตอร์ไถโค่นต้นไม้แล้วถึงกับน้ำตาซึม ด้วยข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น และการทำสนามใหม่ครั้งนี้ไม่อยู่ในแผนประจำปีของกองทัพเรือแต่อย่างใดด้วย

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรา 11 และมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ประกอบ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 โดยชัดแจ้ง นอกจากนั้นยังฝ่าฝืนนโยบายเร่งด่วนของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประจำปีงบประมาณ 2561 ที่สั่งการเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ไว้ชัดเจนว่า “ต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วน ขยายผลและเผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาตามแนวทางพระราชดำริ ร.9 สมเด็จพระราชินี และในหลวง ร.10 และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี เช่น การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้” ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมจึงจะนำความ พร้อมหลักฐานไปร้องเรียนเอาผิด เจ้ากรมการแพทย์ทหารเรือ ประธานและคณะกรรมการกำหนดทีโออาร์และ ผอ.กองสนับสนุน กรมแพทย์ทหารเรือ และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ณ สำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ถนนสนามไชย เขตพระนคร กทม. ในวันจันทร์ที่ 10 กันยายน 2561 เวลา 10.30 น. เพื่อขอให้สั่งการให้มีการตรวจสอบและลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหาร 2476 และตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องภายใน 7 วัน แต่หากไม่มีการดำเนินการลงโทษใด ๆ สมาคมจะนำความยื่นฟ้องต่อศาลต่อไป

 

ที่มา : มติชนออนไลน์