3 ปียาฆ่าหญ้าคร่า 1,715 ราย “บัตรทอง” จ่ายแล้วกว่า 60 ล้าน

สปสช.เปิดข้อมูลระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พบตัวเลขผู้เสียชีวิตจาก “สารเคมีกำจัดศัตรูพืช” ในช่วง 3 ปี สูงถึง 1,715 ราย ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเฉลี่ย 5,000 รายต่อปี เบิกจ่ายค่ารักษากว่า 22 ล้านบาทต่อปี

เมื่อวันที่ 9 กันยายน นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีมติห้ามใช้สารเคมี 3 ชนิด คือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ซึ่งเป็นสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ได้มีมติเห็นชอบ เนื่องจากสารเคมีดังกล่าวได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ทั้งผู้ที่สัมผัสกับสารพิษทางตรง และผู้ได้รับสารพิษทางอ้อมจากภาวะสารตกค้างในธรรมชาตินั้น จากข้อมูลการเข้ารับบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง ได้มีการรายงานผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมีสาเหตุจากการได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืชทั้งจากยาฆ่าแมลง กลุ่มออร์แกโนฟอสเฟตและคาร์บาเมต (organophosphate และ carbamates ยาฆ่าแมลง) ยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าเชื้อรา (สารเคมีกำจัดวัชพืชและสารฆ่าเชื้อรา) และสารเคมีทางการเกษตรประเภทอื่นๆ โดยปี 2559 มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา จำนวน 4,924 ราย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 613 ราย มีการเบิกจ่ายค่ารักษา จำนวน 22,829,167 บาท และปี 2560 มีผู้ป่วย จำนวน 4,983 ราย เสียชีวิต จำนวน 582 ราย มีการเบิกจ่ายค่ารักษา จำนวน 22,651,053 บาท

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า เมื่อแยกดูข้อมูล ผู้ป่วยตามประเภทของสารพิษที่ได้รับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโดยมีสาเหตุจากยาฆ่าแมลงกลุ่มออร์แกโนฟอสเฟตและคาร์บาเมตปี 2559 มี 1,394 ราย เสียชีวิต 101 ราย เบิกจ่ายค่ารักษา 7,386,640 บาท และปี 2560 มีผู้ป่วย 1,299 ราย เสียชีวิต 79 ราย เบิกจ่ายค่ารักษา 7,262,045 บาท ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโดยมีสาเหตุจากยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าเชื้อราปี 2559 มี 2,063 ราย เสียชีวิต 478 ราย เบิกจ่ายค่ารักษา 10,434,891 บาท และปี 2560 มี 2,234 ราย เสียชีวิต 471 ราย เบิกจ่ายค่ารักษา 10,305,528 ราย และผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโดยมีสาเหตุจากสารเคมีทางการเกษตรประเภทอื่นๆ ปี 2559 มี 1,522 ราย เสียชีวิต 34 ราย เบิกจ่ายค่ารักษา 5,007,636 บาท และปี 2560 มี 1,499 ราย เสียชีวิต 32 ราย เบิกจ่ายค่ารักษา 5,083,480 บาท

“ส่วนการรายงานข้อมูลผู้ป่วยในปีนี้ ข้อมูลวันที่ 10 ตุลาคม 2560 กรกฎาคม 2561 มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา โดยมีสาเหตุจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแล้ว 4,001 ราย เสียชีวิต 520 ราย มีการเบิกจ่ายค่ารักษา 17,335,470 ล้านบาท โดยเป็นผู้ป่วยที่มีสาเหตุจากยาฆ่าแมลงกลุ่มออร์แกโนฟอสเฟตและคาร์บาเมต 877 ราย เสียชีวิต 56 ราย เบิกจ่ายค่ารักษา 4,362,437 บาท ผู้ป่วยที่มีสาเหตุจากยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าเชื้อรา 1,886 ราย เสียชีวิต 442 ราย เบิกจ่ายค่ารักษา 8,804,145 บาท และผู้ป่วยจากสารเคมีทางการเภษตรประเภทอื่นๆ 1,288 ราย เสียชีวิต 22 ราย เบิกจ่ายค่ารักษา 4,168,888 บาท” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวและว่า นอกจากนี้ เมื่อดูการเข้ารับบริการของผู้ป่วยกลุ่มนี้ โดยแยกข้อมูล 13 เขตบริการสุขภาพ พบว่าปี 2561 เขต 1 เชียงใหม่ 644 ราย รองลงมา เขต 9 นครราชสีมา 454 ราย เขต 5 ราชบุรี 433 ราย เขต 2 พิษณุโลก 426 ราย และเขต 3 นครสวรรค์ 422 ราย

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า จากรายงานผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโดยมีสาเหตุจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชนี้ เป็นเพียงข้อมูลเฉพาะในส่วนผู้ป่วยที่มีการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืชโดยตรงเฉลี่ยพบผู้ป่วยประมาณ 5,000 รายต่อปี ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการรักษา อยู่ที่ราว 22 ล้านบาทต่อปี โดยรายงานนี้ยังมีข้อมูลที่น่าตระหนก เนื่องจากมีผู้ป่วยจากสารกำจัดศัตรูพืชที่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตขณะรักษาตัวในโรงพยาบาลช่วงปี 2559-2561 มีจำนวนสูงถึง 1,715 ราย หรือเฉลี่ยปีละเกือบ 600 ราย นับเป็นข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์สะท้อนถึงผลกระทบด้านสุขภาพประชาชนจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทั้งนี้ ยังไม่รวมถึงผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาวของประชาชนจากการรับสารเคมีกำจัดศัตรูพืชทางอ้อมที่ตกค้างและปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม สปสช.จึงแสดงจุดยืนร่วมปกป้องสุขภาพประชาชนจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่เป็นอันตราย และสนับสนุนรัฐมนตรีว่าการ สธ.ในการผลักดันนโยบายห้ามใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิด

 


ที่มา : มติชนออนไลน์