มหาดไทยยังลุ้นสนามกอล์ฟกรมชลฯ ‘เกษตร-คมนาคม’จัดแผนย้าย

กฤษฎา บุญราช

กระทรวงใหญ่พร้อมใจย้ายพ้นเกาะรัตนโกสินทร์ เกษตรฯเล็งโยกไปม.เกษตรบางเขน ยันไม่ดับฝันมหาดไทยขอใช้สนามกอล์ฟกรมชลฯ คมนาคม สร้างตึกใหม่ 3 พันล้านย่านบางซื่อ เผยหน่วยงานรัฐ13 แห่งจองศูนย์ราชการโซน C เต็มทั้ง 5.1 แสน ตร.ม.

การย้ายอาคารที่ทำการส่วนราชการระดับกระทรวง กรม ฯลฯ ออกจากพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อลดปัญหาความแออัด และปัญหาการจราจร และเป็นการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลกับแผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งขณะนี้ร่างแผนแม่บทฉบับใหม่อยู่ระหว่างเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณา ก่อนขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีความคืบหน้าตามลำดับ

ล่าสุด นอกจากกระทรวงมหาดไทยเตรียมการจัดหาพื้นที่ และอยู่ระหว่างรอคำตอบจากกรมชลประทานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังทำหนังสือประสานขอความอนุเคราะห์ใช้พื้นที่สนามกอล์ฟชลประทาน 100 ไร่ สำหรับใช้เป็นที่ก่อสร้างกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ อีกหลายหน่วยงาน ทั้งหน่วยงาน พลเรือน ทหาร ก็เตรียมขยับขยายออกจากที่ตั้งเดิมเช่นเดียวกัน

ไม่ดับฝัน มท.ใช้พื้นที่กรมชลฯ 

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” กรณีมีกระแสข่าวว่ากรมชลประทานได้ทำหนังสือตอบปฏิเสธไม่ให้กระทรวงมหาดไทยใช้ที่ดินสนามกอล์ฟของกรมชลประทานสร้างเป็นกระทรวงแห่งใหม่ว่า เรื่องดังกล่าวมีคณะกรรมการว่าด้วยการใช้ที่ดินของส่วนราชการพิจารณา ซึ่งกรมชลฯในฐานะนิติบุคคลก็เป็นส่วนราชการ แต่นาทีนี้กรมชลฯยังไม่ได้ส่งข้อมูลมาให้ตัดสินใจว่าจะให้หรือไม่ให้ จึงต้องดูก่อนว่ากรมชลฯต้องเอาพื้นที่ไปใช้ทำอะไร และหากจะให้กระทรวงมหาดไทยใช้พื้นที่จะให้ภายใต้เงื่อนไขอะไร เนื่องจากเป็นส่วนราชการด้วยกัน ต้องคุยด้วยเหตุด้วยผล ให้ไปแล้วไม่ได้เป็นการค้ากำไร

“ผมยืนยันไม่ได้ดับฝัน ยังไม่มีลายเซ็นผม ยังอยู่ในขั้นตอน เป็นเรื่องระเบียบกฎเกณฑ์ ถ้ากรมชลฯไม่ให้กระทรวงมหาดไทยใช้พื้นที่ก็ต้องบอกเขาว่าจะเก็บที่ไว้ทำอะไร หรือจะให้ก็ต้องบอกว่าให้ได้เท่าไหร่ ส่วนไหนให้ได้ แนวโน้มที่จะตอบอยู่ที่ว่าแผนการใช้ที่ดินของกรมชลฯมีเรื่องอะไรบ้าง เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จะขอมาตั้งหน่วยน้ำในเขตนั้น อาจกันพื้นที่บางส่วนไว้ การไม่ให้กระทรวงมหาดไทยใช้พื้นที่โดยสิ้นเชิงคงไม่น่าเป็นไปได้ ต้องมีเหตุมีผล” นายกฤษฎากล่าว

กระทรวงเกษตรฯไป ม.เกษตรฯ

ขณะเดียวกัน นายกฤษฎากล่าวว่า ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงมหาดไทยเท่านั้นที่มีแผนย้ายที่ทำการ เพราะในส่วนของกระทรวงเกษตรฯก็มีแผนย้ายด้วย อย่างสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) อยู่ในข่ายต้องย้าย เพราะอยู่ในเขตรัตนโกสินทร์ จะต้องมีที่ใหม่มารองรับ โดยเล็งไว้ส่วนหนึ่งคือสนามกอล์ฟกรมชลฯกับพื้นที่บางส่วนของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เพราะส่วนราชการหลายส่วนในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ปัจจุบันก็อยู่ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อยู่แล้ว และยังพอมีพื้นที่เหลือ

ขณะที่นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เรื่องการขอใช้พื้นที่กรมชลประทานมาเป็นที่ตั้งของกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เพราะกระทรวงเกษตรฯยังไม่ตอบหนังสือมาอย่างเป็นทางการ ส่วนกระแสข่าวที่กรมชลฯปฏิเสธการให้พื้นที่นั้น ตนได้ยินมาจากข่าวเท่านั้น ยังไม่เห็นเอกสารราชการตัวจริง ดังนั้นยังไม่ต้องไปจินตนาการใด ๆ

คมนาคมสร้างตึกใหม่ 3 พันล้าน

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า อยู่ระหว่างเตรียมการย้ายที่ทำการกระทรวงคมนาคมออกจากถนนราชดำเนินเหมือนกับหลายหน่วยงาน เนื่องจากที่ปัจจุบันมีความแออัด และให้สอดรับกับแผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเกาะรัตนโกสินทร์ และนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจัดระเบียบพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ โดยจะพิจารณาคัดเลือกทำเลที่มีความเหมาะสมระหว่างที่ดินของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) บริเวณทุ่งมหาเฆม พื้นที่ว่าง 8 ไร่ และที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บนถนนกำแพงเพชร 2 เยื้องปั๊มน้ำมัน ปตท. ซึ่งจะขอใช้พื้นที่ประมาณ 10 ไร่

สาเหตุที่เลือกใช้ที่ดินของการรถไฟฯย่านบางซื่อ เนื่องจากในอนาคตเส้นทางคมนาคมสะดวกสบาย เพราะอยู่บริเวณย่านสถานีกลางบางซื่อ ที่ในปี 2563 จะมีรถไฟฟ้าสายสีแดง (ตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต) เปิดบริการ ขณะที่ดินของ ทย.จะมีปัญหาเรื่องการเข้า-ออกค่อนข้างลำบาก แต่หากเลือกที่ดินของ ร.ฟ.ท.จะต้องจ่ายค่าเช่า ขณะนี้กำลังเจรจากับ ร.ฟ.ท.

สำหรับรูปแบบอาคารที่จะสร้างใหม่ ล่าสุดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่กระทรวงว่าจ้างให้เป็นผู้ออกแบบด้วยวงเงิน 24 ล้านบาท ได้ออกแบบก่อสร้างอาคารใหม่เสร็จแล้วเป็นอาคารสูง 30 ชั้น 1 อาคาร พร้อมอาคารจอดรถสูง 4-5 ชั้น และปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบด้วย จะใช้เงินก่อสร้าง 2,000-3,000 ล้านบาท โดยจะขอจัดสรรงบประมาณในปี 2563-2564 มาดำเนินการก่อสร้าง

กรมแผนที่ทหารคืนพื้นที่ธนารักษ์

นอกจากส่วนราชการที่เป็นพลเรือน แหล่งข่าวจากกองบัญชาการกองทัพไทยเปิดเผยในทำนองเดียวกันว่า หน่วยขึ้นตรงของกองบัญชาการกองทัพไทยก็ต้องย้ายออกจากพื้นที่ในเกาะรัตนโกสินทร์ด้วย ได้แก่ กรมแผนที่ทหาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนกัลยาณไมตรี เขตพระนคร ขณะนี้กำลังย้ายบุคลากรไปที่โรงเรียนแผนที่ทหาร ถนนราชดำเนินนอก และที่กองคลังแผนที่ของกรมแผนที่ทหาร ถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 เดือนนี้ เพื่อคืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์ ส่วนที่ตั้งใหม่จะเป็นพื้นที่ใน จ.ปทุมธานี บริเวณคลองหก เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ซึ่งกว้างขวางกว่าสถานที่เดิม โดยกองบัญชาการกองทัพไทย ต้องตั้งงบประมาณเพื่อก่อสร้างสถานที่ใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ

ส่วนนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบและไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการย้ายที่ตั้งกระทรวง และภายในกระทรวงศึกษาธิการไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ในการประชุมประจำเดือนของผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวง ครั้งล่าสุดก็ไม่มีการพูดถึงประเด็นนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ กระทรวงได้จัดทำโครงการบูรณะและอนุรักษ์อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อปี 2559 ใช้งบประมาณ 277 ล้านบาท และเพิ่งแล้วเสร็จช่วงต้นปี 2561

ศูนย์ราชการเต็ม 5.1 แสน ตร.ม.

ด้านนางสาวอมรรัตน์ กล่ำพลบ รองอธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะโฆษกกรมธนารักษ์ กล่าวว่า หน่วยราชการที่ต้องย้ายออกจากเกาะรัตนโกสินทร์ มีบางหน่วยงานที่จะย้ายมาอยู่ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ โซน C จะมีในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ส่วนกระทรวงมหาดไทยเท่าที่ทราบอาจจะต้องมีแผน 2 เนื่องจากแผนแรกที่จะย้ายไปใช้สนามกอล์ฟ 100 ไร่ ของกรมชลประทาน ล่าสุดได้รับข้อมูลว่าทางกรมชลประทานได้ปฏิเสธให้ใช้พื้นที่ดังกล่าว

“กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะย้ายมาอยู่ศูนย์ราชการโซน C แน่นอน โดยขณะนี้ทางกรมธนารักษ์กำลังทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเห็นชอบโครงการลงทุน ซึ่ง สศช.เห็นชอบแผนลงทุนมูลค่า 3 หมื่นล้านบาทแล้ว หาก ครม.เห็นชอบก็จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี”


สำหรับศูนย์ราชการโซน C ปัจจุบันมีหน่วยงานที่ขอใช้พื้นที่เต็มพื้นที่ 510,000 ตร.ม.แล้ว จำนวน 13 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ศาลปกครองเฟส 2 เป็นต้น โดยทางกรมธนารักษ์ได้สำรองไว้อีก 5 หน่วยงาน