รมว.คลังไม่เห็นข้อเสนอ ‘เก็บเงินจากบุหรี่’ เข้ากองทุนบัตรทอง

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่มีการยกร่างพ.ร.บ.จัดเก็บเงินสมทบเพื่อสนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการภาครัฐ พ.ศ … เพื่อจัดเก็บเงินสมทบจากผลิตภัณฑ์ยาสูบในอัตรามวนละ 10 สตางค์ หรือซองละ 2 บาทว่า ยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว ซึ่งกระทรวงการคลังไม่ใช่ต้นเรื่อง

อย่างไรก็ตามการจัดทำร่างกฎหมายดังกล่าวต้องพิจารณาว่าจะขัดต่อพ.ร.บ.วินัยทางการเงินการคลัง ซึ่งในกฎหมายวินัยการเงินการคลังกำหนดไม่ให้หน่วยงานเสนอกฎหมายให้จัดเก็บภาษีอากร หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น เพื่อให้หน่วยงานนั้นนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ (Earmarked Tax) หากจะทำต้องเสนอกระทรวงการคลังพิจารณา

“ถ้ามีต้องขอดูรายละเอียดก่อนว่าเขาเสนออย่างไร เพราะเท่าที่ทราบขณะนี้บัตรทองเงินไม่พอใช้ กระทรวงสาธารณสุขพยายามหาแหล่งเงินว่ามีแหล่งเงินตรงไหนเขาคงคิดว่าบุหรี่เป็นเรื่องของสุขภาพถ้าเอาเงินจากตรงนี้น่าจะอยู่ในวิสัยที่ทำได้ ซึ่งถ้าถามความเห็นเรื่องนี้คงต้องไปถามกระทรวงสาธารณสุข เพราะผมยังไม่เห็นเรื่องเลย ยังไม่รู้ว่าเขาพิจารณา หรือเสนออย่างไร” นายอภิศักดิ์ กล่าว

นายพชร อนันตศิลป์ ว่าที่อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดในข้อเสนอเก็บเงินจากบุหรี่เข้ากองทุนบัตรทอง โดยเห็นจากข่าว ดังนั้นขอสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนก่อน

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีกระแสข่าวออกมาว่าจะมีการเก็บเงินจากบุหรี่เข้ากองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อย่างไรก็ตามในการจัดเก็บข่าวออกมี 2 แนวทางคือเก็บ 2% ของราคาขาย และ 2 บาทต่อซอง อย่างไรก็หากมีการเก็บเงินเพิ่มเติม ทำให้บุหรี่มีราคาสูงขึ้น

โดยเฉพาะในกลุ่มราคาถูกต่ำกว่า 60 บาทต่อซอง หากผู้ค้าไม่ลดราคาลง จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาษีกรมสรรพสามิตกำหนดอัตราภาษี 2 อัตรา คือ ราคา 60 บาทต่อซองอีกอัตราหนึ่ง และราคาสูงกว่า 60 บาทต่อซองเสียอีกอัตราหนึ่งซึ่งสูงกว่า

ที่มา : มติชนออนไลน์