เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 3-4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้เรือประมงทั้งขนาดเล็กและขนาดกลางในพื้นที่บ้านทอน บ้านบาเละฮีเล อ.เมืองนราธิวาส และบ้านตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จำนวนกว่า 1,500 ลำ ต่างนำเรือของตัวเองขึ้นจอดบนฝั่ง และเริ่มงดออกหาปลาในทะเล เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากคลื่นลมในทะเลแรง โดยบางส่วนชาวบ้านได้นำเรือและอุปกรณ์หาปลาไปทำการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพพร้อมที่จะออกไปหาปลาอีกครั้งหากคลื่นลมแรงสงบ
ส่วนบรรยากาศโดยทั่วไปในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส พบว่าในช่วงกลางคืนจะมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง ส่งผลให้มีลมพัดแรง ส่วนช่วงกลางวันจะมีฝนตกน้อยลงและฟ้ามืดตลอดทั้งวันทำให้การสัญจรไปมาของประชาชนในพื้นที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ส่วนร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนราธิวาส โดยเฉพาะที่บริเวณหาดนราทัศน์ ซึ่งตั้งอยู่เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ต่างทยอยปิดร้านมากกว่าครึ่ง เนื่องจากเกรงจะได้รับอันตรายจากคลื่นลมแรงพัดร้านจนได้รับความเสียหาย คาดอย่างน้อยมากกว่า 30 ร้านค้า อย่างไม่มีกำหนดจนกว่าสภาพอากาศจะกลับสู่สภาพปกติและปลอดภัย
สำหรับสภาพอากาศในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของ จังหวัดนราธิวาส นายมะณี อุทรักษ์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส รายงานว่า สภาพโดยทั่วไปมีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากเป็นบริเวณอำเภอรือเสาะ อ.บาเจาะ อ.ยี่งอ และ อ.ตากใบ ลมตะวันออกความเร็ว 15 – 30 กม.ต่อชั่วโมง ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ส่วนบรรยากาศที่ตลาดสดบาเละฮีเล เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ชาวบ้านออกหาซื้อปลาสด รวมถึงเป็ดไก่และผักพบว่าราคาตามแผงปลาสดและอาหารทะเลยังไม่ขึ้น โดยแม่ค้าบอกว่าปลาสด ปลาหมึก กุ้งชาวประมงมีตุนไว้มากเมื่อ 2 วันก่อน และยังมีอาหารทะเลจากปัตตานีอีกส่วนหนึ่งที่ส่งมาสมทบอาหารทะเลจึงยังไม่ขาดตลาดแต่อย่างใด
ที่มา : มติชนออนไลน์