ตรวจนายทุนบุกรุกสวนป่าสัก184ไร่ ทางขึ้นเขาใหญ่ค่า3พันล้าน ไร้เอกสารสิทธิ์ อ้างที่บรรพบุรุษ

ทหารสนธิกำลังเข้าตรวจนายทุนบุกรุกสวนป่าสัก 184 ไร่ทางขึ้นเขาใหญ่มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม พล.ต.อนุสรณ์ นุตสถิตย์ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กร.มน.) จังหวัดนครราชสีมา นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ นายอำเภอปากช่อง นายบรรเจิด มากศิริ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม. 1 (ปากช่อง) พ.ต.ต.วีระศักดิ์ พูลพุทธา สว.บก.3 บก.ปทส. พ.ต.ท.หริพงศ์ แววโคกสูง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หมูสี นายทะนงศักดิ์ สินแสนสุข กำนันตำบลหมูสี สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ กรมป่าไม้ ปกครอง ตำรวจ ทหารจาก มท.บ.21 นครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจสอบ พื้นที่บริเวณสวนป่าสัก กม.ที่ 12 ริมถนนธนะรัชต์ ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต. หมูสี อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา ตามคำสั่งของ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพบว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 จากกรณีพบว่า มีกลุ่มนายทุนอ้างสิทธิ์ เข้าไปยึดครองพื้นที่สวนป่าสักจำนวน 184 ไร่ มีต้นสักขนาดใหญ่มากกว่า 20,000 ต้น มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท และก่อนหน้านี้ มีรองอธิบดีกรมป่าไม้ ชุดพยัคฆ์ไพร ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่มาแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ทั้งที่พื้นที่เป็นของ นิคมสร้างตนเองลำตะคอง ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ของ นิคมสร้างตนเองลำตะคอง เข้าแจ้งความ กับ พ.ต.ท.หริพงศ์ แววโคกสูง รอง ผกก.(สอบสวน ) สภ.หมูสี ว่านายทุนบุกรุกพื้นที่เพียง 2 งานเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริง กลุ่มนายทุนจากที่อื่นและในพื้นที่ เข้ายึดครองพื้นที่ทั้งหมด 184 ไร่ โดยไม่มีเอกสารใด เพียงอ้างว่า เป็นพื้นที่ ของปู่ย่า ตายาย เคยถือครองทำกินมาก่อน และต่อมาเจ้าหน้าที่ นิคมสร้างตนเองลำตะคองเข้าแจ้งการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเป็น 184 ไร่ กับ พ.ต.ท.หริพงศ์ แววโคกสูง รอง ผกก.(สอบสวน ) สภ.หมูสี แต่ยังไม่พร้อมที่จะให้สอบปากคำ โดยอ้างว่าต้องไปปรึกษาฝ่ายนิติกรก่อน

โดยทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ มีนาย พนมกร แลกปั้น อ้างเป็นเจ้าของทั้งหมด อีกทั้งยังทำป้ายมาติดไว้แสดงตัวเป็นเจ้าของทั้งหมด ส่วนป้ายที่แสดงการเป็นเจ้าของ ซึ่งก่อนหน้านี้นิคมสร้างตนเองลำตะคอง นำป้ายไปติดไว้แต่ถูกกลุ่มผู้บุกรุกทำลายล้มลง เมื่อเจ้าหน้าที่ขอดูหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของ นายพนมกร อ้างว่า กำลังตรวจสอบสิทธิ์การครอบครอง โดยบอกว่า แม่ตนเองเข้ามาทำกินประมาณ 50 กว่าปีแล้ว และแม่ก็ตายแล้ว ไม่มีหลักฐาน อะไรเลย แต่จะไม่ยอมออกจากพื้นที่ยังไม่ใช้กฎหมายพิเศษขับไล่ โดยทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบมีกลุ่มผู้บุกรุกให้ทีมงานเป็นผู้หญิงถ่ายภาพและคลิปไว้ตลอด

พล.ต.อนุสรณ์ นุตสถิตย์ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กร.มน.) จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การนำเจ้าหน้าที่ ประมาณ 80 นาย ลงพื้นที่วันนี้ ตามคำสั่งของ ผวจ.นครราชสีมา เพื่อสำรวจต้นไม้ และรั้วคาวบอย ซึ่งเป็นของทางราชการ และตรวจสอบว่า การปลูกเพลิงพักในพื้นที่เพิ่มเติมกิหลัง เดิมมี 3 หลัง เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบตัดไม้ต้นสักขนาดใหญ่ไปจำนวนหลายต้น แต่ยังไม่ใช้กฎหมายพิเศษ ม.44 ขับไล่ แต่อย่างไร เนื่องจากคดีที่เจ้าหน้าที่แจ้งความไว้เบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของอัยการ และพื้นที่ตรงนี้มีราคาสูงมากคาดว่าราคาไร่ละ ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท และต้นสักขนาดใหญ่มีอายุมากกว่า 50-60 ปี ประเมินค่าไม่ได้ ที่เจ้าหน้าที่และนักศึกษา ร่วมกันปลูกเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2505-06 ส่วนคดีจะนานไหมตอบไม่ได้ น่าจะถึงขั้นศาลฎีกา

บริเวณพื้นที่ถูกบุกรุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลหมูสี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ ช่วยกันดูแลพื้นที่ มายาวนานเพราะถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกต้นสักร่วมกันมานานกว่า 50 – 60 ปี เพื่อหวังให้พื้นที่เป็นสมบัติของชาติและเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติสวนป่า แต่จู่ ๆ ก็มีผู้เข้าไปยึดครอง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งที่ไม่มีเอกสารใดๆ คงมีข้าราชการ และอดีตข้าราชการ รวมทั้งผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นมีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปยึดครอง

ซึ่งเมื่อ 3-4 ปี ที่ผ่านมา ในช่วง พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง จัดงบประมาณ ทำการล้อมรั้วคาวบอย แสดงแนวเขตรอบพื้นที่สวนป่าสัก แห่งนี้ เพื่อทำโครงการศูนย์เรียนรู้จัดแสดงสินค้าของกลุ่มชุมชน แต่ต่อมาก็มีผู้เข้าไปบุกรุกอ้างสิทธิโดยไม่มีเอกสารใดๆ ของที่ดินทั้ง 184 ไร่ โดยเจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานว่ามีการซื้อขายที่ดินบริเวณนี้กันแล้ว 10ไร่ ไร่ละ 5 ล้าน มัดจำแล้ว 1 ล้าน เมื่อทำเอกสารการครอบครองได้จะจ่ายให้อีก 49 ล้าน ทราบว่า ที่ดินแปลงนี้ มีนายทุน อยู่เบื้องหลังที่จะหาทางให้เอามาเป็นของตนเอง มีการตกลงแบ่งผลประโยชน์กันแล้ว แต่ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนี้โดยให้นายพนมกร เข้ามาเป็น นอมินีบุกรุกสร้างเพลิงพักประมาณ 4 หลัง ในพื้นที่ การลงตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ จะเป็นเหมือนทุกครั้งแต่ไม่มีอะไรคืบหน้า กลุ่มผู้บุกรุกก็ยังยึดพื้นที่และทำการก่อสร้างเพลิงพักขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านกังขา มาลงพื้นที่เพื่อสร้างภาพสร้างผลงานเท่านั้นหรือไม่ ซึ่งพื้นที่ในเขต อ.ปากช่อง มีราคาสูงมาก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ ต.หมูสี เขาใหญ่ จะมีราคาตกไร่ละ 8-10 ล้านบาท

ADVERTISMENT

ด้าน พ.ต.ท.หริพงศ์ แววโคกสูง รอง ผกก.(สอบสวน ) สภ.หมูสี กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นิคมลำตะคอง มาแจ้งความร้องทุกข์ว่ามีการบุกรุกเพียง 2 งาน และพนักงานสอบสวนได้สอบสวนและส่งสำนวนไปยังอัยการ ปากช่อง แล้ว และต่อมามีการวิพากษ์วิจารณ์ ถึงหน่วยงานนิคมสร้างตนเองลำตะคอง รวมถึง ภาคประชาชนอำเภอปากช่อง ได้เชิญเจ้านิคมสร้างตนเองลำตะคอง ไปให้รายละเอียดความคืบหน้าในเรื่องคดี ที่ห้องประชุมภาคประชาชนบนชั้น 3 อำเภอปากช่อง มาแล้ว และต่อมามีเจ้าหน้าที่ นิคมเข้าแจ้งความการบุกรุกเพิ่มอีกทั้ง 184 ไร่ กับ พ.ต.ท.เขมชาติ แปดแก้ว สว.สอบสวน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เดินทางมาให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำ ละเลยมานานกว่า 4 เดือน และคงต้องออกหมายเรียก ให้มาให้การต่อไปซึ่งก็แปลกดูๆ แล้ว น่าจะมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลอยู่ พ.ต.ท.หริพงศ์ แววโคกสูง รอง ผกก.(สอบสวน ) กล่าว

 

ADVERTISMENT

ที่มา : มติชนออนไลน์