เตือนภัยต่อเนื่องคอลเซ็นเตอร์ลวงโอนเงิน โรแมนซ์สแกม ตร.-ปปง.อายัดคืนได้บางส่วน

เตือนภัยต่อเนื่องคอลเซ็นเตอร์ลวงโอนเงิน โรแมนซ์สแกม ตร.-ปปง.อายัดคืนได้บางส่วนเมื่อเวลา 11.35 น. วันที่ 19 ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 และรองโฆษก ปปง. แถลงมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนคดีคอลเซ็นเตอร์และแก๊งโรแมนซ์สแกม จากการปฎิบัติงานของสายด่วน 1710 ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสายด่วน 1155 ของตร. ร่วมกับธนาคาร สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงและโอนไปยังบัญชีของกลุ่มคนร้ายแล้วระงับไม่ให้สามารถถอนเงินออกไปได้ และได้นำเงินคืนให้กับผู้เสียหายจำนวนทั้งสิ้น 2 ราย รวมเป็นเงินจำนวน 485,000 บาท

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาชาวไทย 4 คน ร่วมกับชาวไต้หวัน ตั้งกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยใช้คอนโดมิเนียมหรู เมืองจางโจว มณฑลฝูเจี้ยน เป็นฐานปฏิบัติการ หลังชุดสืบสวนขยายผลร่วมกับตำรวจมณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าตรวจค้นฐานปฏิบัติการของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ โดยทั้งหมดถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และส่งต่อให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางชัน รับไปดำเนินคดีตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันเป็นอั้งยี่ซ่องโจร และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

รรท.ผบช.สตม.กล่าวว่า สำหรับผู้เสียหายในคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของ สภ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี ถูกหลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงิน จำนวน 500,000 บาท ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายไว้ได้ จำนวน 300,000 บาท ขณะที่ผู้เสียหายในคดีแก๊งโรแมนซ์สแกมของ สน.นางเลิ้ง ถูกหลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงิน จำนวน 8,965,560 บาท ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายไว้ได้ จำนวน 185,000 บาท

นอกจากนี้จากสถิติการรับแจ้งเหตุคดีคลอเซ็นเตอร์ศปอส.ตร. รับแจ้งเหตุตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.60 ถึงวันที่ 12 ต.ค.61 จำนวน 506 คดี มูลค่าความเสียหาย 259,663,632.04 บาท จากสถิติการรับแจ้งเหตุคดีโรแมนซ์สแกมรับแจ้งเหตุตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.61 ถึงวันที่ 12 ต.ค.61 จำนวน 156 คดี มูลค่าความเสียหาย 89,521,494 บาท

 

ที่มา : มติชนออนไลน์