สภาเภสัชฯ เสนอทางออก สธ.ทำหนังสือถึง ครม. กรณีปม ร่าง พ.ร.บ.ยา

ความคืบหน้ากรณีการคัดค้านร่าง พ.ร.บ. ยา ฉบับยื่นคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะมาตรา 24(3) และ 25(6) ที่ทำให้เข้าใจผิดว่าจะอนุญาตให้เปิดร้านขายยาโดยไม่มีเภสัชกรเพิ่มเติม เหมือนร้านขายยา ขย.2 โดยแค่ผ่านการอบรมจากอย. และมาตรา 117 การให้คลินิกทุกประเถทขายยาอันตราย ซึ่งอาจรวมถึงคลินิกของพยาบาล เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด แพทย์แผนไทย ซึ่ง อย.ชี้แจงว่า เป็นมาตราที่รองรับ ขย.2 โดยจะให้ไปแก้ในชั้นคณะกรรมการกฤษฎีกา

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม  ภก.วรวุฒิ กิตติวงศ์สุนทร อุปนายกสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า ปกติแล้วเรื่องชั่วคราวจะต้องเขียนไว้ในบทเฉพาะกาล ไม่ใช่เขียนไว้ในบทหลัก ซึ่งเราไม่เห็นด้วยหากจะให้ไปแก้ไขในชั้นกฤษฎีกา เพราะหากคณะรัฐมนตรีรับหลักการไปแล้วก็อาจเกิดปัญหาขึ้นได้ ดังนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะต้องยื่นหนังสือไปยัง ครม. เพื่อให้ข้อมูลว่า ร่าง พ.ร.บ. ยา ที่เสนอเข้ามามีข้อผิดพลาด ขอให้ ครม.รับทราบโดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตัดมาตรา 24 (3) และ 25 (6) แล้วไปใส่ไว้ในบทเฉพาะกาลมาตรา 228 ส่วนมาตรา 117 หากเป็นไปได้ก็ตัดออก แต่หากจะเติมว่ายึดตามมาตรา 22 (5) เพาะคลินิกแแพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ ก็ไม่ขัดข้อง แต่ ครม.ต้องรับหลักการว่าต้องไปแก้ในชั้นกฤษฎีกา ซึ่งตรงนี้มองว่าสามารถดำเนินการได้

ภก.นิลสุวรรณ ลีลารัศมี นายกสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า ไม่ว่าอย่างไรทางสภาเภสัชกรรมจะจับตาอย่างใกล้ชิดว่า จะมีการแก้ไขอย่างที่หารือกันจริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีการประชุมหารือหรือระชาพิจารณ์อะไร ก็ไม่เคยออกมาตรงเสียที ทำให้ อย.แทบไม่เหลือเครดิตให้ได้น่าเชื่อ อย่างไรก็ตาม ก็เชื่อว่า นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการ อย.คนใหม่ ซึ่งเป็นคนพูดจริงทำจริง พูดคำไหนคำนั้น ก็คงจะดำเนินการตามที่หารือไว้ ซึ่งทางสภาฯ ก็จะไปให้ข้อมูลในชั้นกฤษฎีกาด้วยว่า จะต้องแก้ไขร่างตรงไหนอย่างไรบ้าง ซึ่งทางเราก็มีการทำข้อมูลทำร่างที่เหมาะสมไว้แล้ว

ด้านนพ.ธเรศ กล่าวว่า จากการดำเนินการร่วมกับ กสทช.เกี่ยวกับการควบคุมโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ภาคใต้ ก็มีเภสัชกรมายื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ. ยา ซึ่งตนก็รับข้อเสนอไว้ และได้มีการทำความเข้าใจกับกลุ่มเภสัชกรแล้วเหมือนอย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปว่า มาตราที่มีปัญหาเป็นเพียงการรองรับสถานะของร้านขายยา ขย. 2 ไม่ได้จะเปิดร้านขายยาเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้ก็กำลังหารือกันอยู่ว่าจะหาทางออกอย่างไรให้ออกมาดีที่สุดในเรื่องของการแก้ไขมาตราเหล่านี้

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์