แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา-กระทรวงพาณิชย์-กรมสรรพสามิต ต่างได้รับการร้องเรียนจากทูตหลายประเทศ อาทิ สาธารณรัฐคาซัคสถาน, บาห์เรน, โอมาน, สาธารณรัฐสโลวัก กรณีพลเมืองของประเทศตนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วถูกเจ้าหน้าที่ไทยเรียกปรับเงินอย่างไม่ถูกต้อง จากการนำ “บุหรี่ไฟฟ้า” ติดตัวเข้ามา เนื่องจากกฎหมายไทยกำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์เมื่อปี 2557
ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์จะมีการหารือกับกระทรวงสาธารณสุข-กระทรวงการคลัง-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)-กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ โดยเบื้องต้นมีข้อเสนอให้ “ยกเลิก” ประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า แต่ทางกระทรวงสาธารณสุขจะต้องหาข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับโทษของบุหรี่ไฟฟ้า เทียบกับการสูบบุหรี่ปกติเป็นอย่างไร เพราะยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันอยู่เกี่ยวกับประเด็นนี้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ด้านนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การจะปรับเปลี่ยนเรื่องนี้จะต้องพิจารณาให้สอดรับกับนานาประเทศด้วย โดยต้องดูว่า กฎระเบียบของประเทศไทยเหมือนหรือแตกต่างกับนานาประเทศอย่างไร “เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าถ้ากฎหมายไม่สอดคล้องกับกฎหมายของนานาประเทศก็อาจจะต้องมีการพิจารณาทบทวนว่า ควรต้องทำอย่างไร เพราะมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้บริโภคทั่วโลก โดยคนที่สูบบุหรี่จำนวนมากก็ใช้บุหรี่ไฟฟ้าก่อนที่เลิกบุหรี่เด็ดขาด ซึ่งถามว่า ถ้าถูกกฎหมายแล้วจะทำให้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นหรือไม่ ก็คงไม่ใช่ เพราะราคาแพงกว่า ทั้งนี้ในฐานะที่เราเป็นประเทศเปิดก็คงต้องลองพิจารณาเรื่องนี้กันว่า การไปปิดกั้นไว้ทำให้เกิดช่องทางทุจริตได้ง่ายขึ้น” นายพชรกล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวถึงนโยบายรัฐบาลในเรื่องภาษียาสูบว่า จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากโครงสร้างปัจจุบันที่จัดเก็บกรณีบุหรี่ราคาไม่เกิน 60 บาท/ซองจะเสียภาษีสรรพสามิต 20% ส่วนบุหรี่ที่ราคาเกิน 60 บาท/ซองจะเสียภาษีสรรพสามิต 40% รวมถึงตามแผนเดิมที่วางไว้ว่า หลังจากสิ้นเดือนกันยายน 2562 แล้ว อัตราภาษีบุหรี่จะเป็นอัตราเดียวคือ 40%