พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุให้ตำรวจจราจรอยู่แต่ภายในป้อม โดยหากเกิดอุบัติเหตุแล้วค่อยออกมาว่า เนื่องจากการควบคุมสัญญาณไฟจราจรยังไม่ใช่ระบบอัตโนมัติ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการกดสัญญาณไฟ และโดยปกติก็จะอยู่ภายในป้อมเพื่อควบคุมมวลรถในชั่วโมงเร่งด่วนเช้าเย็นเป็นประจำอยู่แล้ว แต่สำหรับบางพื้นที่ เช่น บริเวณหน้าจุดตัดถนนทางตรง ทางร่วมทางแยกบางแห่ง ชุมชน หรือ โรงเรียน ยังมีความจำเป็นที่จะต้องให้ตำรวจออกไปจัดระเบียบเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบไปยังรถที่อยู่ท้ายแถว ซึ่งหน้าที่หลักของตำรวจคือการบังคับใช้กฎหมาย โดยจะกวดขันเรื่องการห้ามไม่ให้จอดรถกัดขวางผิวจราจร
สำหรับประเด็นที่ว่าการที่มีตำรวจจราจรออกมาจัดระเบียบยิ่งทำให้เกิดรถติดมากขึ้นนั้น ตนมองว่าเป็นปัญหาเหมือน ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน ต้องอธิบายว่า ในบางสถานการณ์อาจจะมีเหตุทำให้รถติดอยู่ก่อนหน้า แต่เมื่อผู้ใช้รถใช้ถนนขับเข้ามาในระหว่างที่มีตำรวจคอยจัดระเบียบอยู่ จึงอาจเข้าใจว่าตำรวจมาทำให้รถติดมากขึ้น ต้องเรียนว่า เพราะมีรถติด ตำรวจจึงต้องออกไปดูแล
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการผลักดัน ที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ประกอบการควบคุมสั่งการจราจร ชื่อว่า Area Traffic Control (การควบคุมงานจราจรตามท้องที่) หรือ ATC ซึ่งได้นำเสนอเข้าไปในที่ประชุมคณะทำงานติดตามการจราจรแล้ว ทั้งนี้โครงการดังกล่าวต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก โดยจะพยายามเร่งรัดให้นำมาใช้อย่างเร็วที่สุด