“อัศวิน” ลุยตรวจโป๊ะคืนวันเพ็ญ สั่งปิดใช้ 88 ท่าชำรุด-ลดคน 25%

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายสกลธี ภัททิยกุล นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าฯกทม. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) นำคณะสื่อมวลชนลงเรือตรวจการณ์ ตั้งแต่ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือวัดอรุณราชวราราม ท่าเรือวังหลัง ท่าเรือพระปิ่นเกล้า และท่าเรือพระราม 8 รวมระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร (กม.) เพื่อตรวจความปลอดภัยท่าเทียบเรือและโป๊ะ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องในวันลอยกระทง ประจำปี 2561

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า สำหรับท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา มีจำนวน 217 ท่า อยู่ในสภาพใช้งานได้ 182 ท่า ชำรุด 45 ท่า ส่วนท่าเรือในคลองพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีจำนวน 295 ท่า อยู่ในสภาพใช้งานได้ 166 ท่า ชำรุด 43 ท่า โดยกทม.จะปิดท่าเรือที่ชำรุด พร้อมติดป้ายประกาศห้ามใช้งาน ขณะที่ท่าเรือหรือโป๊ะที่สามารถใช้การได้จะมีการติดป้ายระบุจำนวนที่สามารถรองรับประชาชนได้อย่างชัดเจน โดยสั่งการให้ลดจำนวนประชาชนลงร้อยละ 25 จากป้ายเตือน เพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่นและเพื่อความปลอดภัย ป้องกันความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ อาสาสมัครป้องกันพลเรือน (อปพร.) คอยประจำท่าเรือคอยคัดกรองจำนวนประชาชน ขณะที่ทางน้ำกองทัพเรือ บช.น. สำนักเทศกิจ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะคอยตรวจตรา โดยใช้เรือ 30 ลำปฏิบัติงาน และอุปกรณ์สนับสนุน เพื่อให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงยังนำเรือที่ย้ายมาจากบริษัท ซีทโบ๊ต จำกัด มาร่วมปฏิบัติการ

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า โดยในช่วงกลางดึกของวันที่ 23 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลาประมาณ 00.01 เป็นต้นไป กทม.จะดำเนินการจัดเก็บกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยา เช่นเดียวกับตามคูคลองและสวนสาธารณะทั้ง 30 แห่งที่ กทม.เปิดให้บริการให้เรียบร้อยก่อนรุ่งเช้าของวันที่ 24 พฤศจิกายน ทั้งนี้ เชิญชวนประชาชนใช้วัสดุลอยกระทงที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติและย่อยสลายง่าย เช่น ต้นกล้วย ใบตอง ขนมปัง และขอให้งดใช้โฟมและ พลาสติกเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่คอยตักเตือนบุคคลที่มักลงน้ำไปเก็บกระทงทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ให้ระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัย และให้ไม่เก็บกระทงทันทีที่ประชาชนลอยเสร็จ

นอกจากนี้ พล.ต.อ.อัศวินกล่าวอีกว่า ขอความร่วมมือประชาชนห้ามจุดพลุ โคมลอย โคมไฟหรือวัสดุที่คล้ายคลึงซึ่งก่อให้เกิดอันตราย และเหตุอัคคีภัยตามบ้านเรือนประชาชน หากพบผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมทั้งห้ามจำหน่ายห้ามเล่นประทัดจีนทุกชนิด หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบร้านค้าและสถานประกอบการอย่างเข้มงวด รวมทั้งดูแลความปลอดภัยกับประชาชนตามสถานที่จัดงานในช่วงวันลอยกระทงทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร

“กทม.ได้กำหนดจัดวันลอยกระทงบริเวณใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรีและบริเวณคลองโอ่งอ่าง เขตพระนคร และสวนสาธารณะ 30 แห่งใน 20 เขตทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 05.00-24.00 น. ของวันที่ 22 พฤศจิกายน เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันสืบสานประเพณีไทย” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว

 


ที่มา : มติชนออนไลน์