เชิญตัวนักการเมืองสอบคดีปล้นเต็นท์รถ ชาวบ้านแจ้งพบกลุ่มชายฉกรรจ์ติดอาวุธเคลื่อนไหวตามแนวสันเขา

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง เปิดยุทธการปิดล้อมตรวจค้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังกลุ่มคนร้ายก่อเหตุปล้นเต็นท์รถมือสองหวังนำก่อเหตุคาร์บอมบ์ โดยเหตุดังกล่าวฝ่ายคนร้ายถูกวิสามัญ 1 ศพ เหตุเกิดเมื่อ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยล่าสุดได้นำกำลัง 3 ฝ่ายเข้าตรวจพิสูจน์ทราบจุดต้องสงสัยหลายแห่ง หลังหน่วยข่าวกรองทหารได้รับแจ้งข้อมูลข่าวสารจากชาวบ้านที่ไปกรีดยางว่า พบเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อาจเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มแรกประมาณ 11 คน อีกกลุ่มประมาณ 7 คน เคลื่อนไหวไปมาบริเวณสันเขาใกล้สวนยางพารา ติดเทือกเขาตะเว รอยต่อ บ.บือแจง กับ บ.วังทอง ต.บองจอ อ.ระแงะ และ บ.ลาแลลูวัส ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รวมถึงพบการเคลื่อนไหวมาถึงพื้นที่เทือกเขาพิเทน เขตรอยต่อเชื่อมพื้นที่ 3 จชต. (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส)

โดยทั้งหมดแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่เป็นชุดดำและชุดลายพราง และมีอาวุธปืนสงครามทุกคน จึงได้ประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับหน่วยรับผิดชอบแต่ละพื้นที่ คาดว่าการเคลื่อนไหวเข้ามาหลบซ่อนตัวอย่างผิดปกตินั้นกลุ่มก่อความไม่สงบอาจมีแผนการก่อเหตุรุนแรง ทั้งนี้ข้อมูลบางส่วนยืนยันจากชาวบ้านว่ากลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธปืนยาวบางส่วน ได้แยกย้ายกันกบดานอยู่ตามบ้านแนวร่วมหลายจุด และอาจเป็นการเคลื่อนไหวจะรวมตัวก่อเหตุในเร็วนี้ เพื่อแสดงให้เห็นศักยภาพว่าสามารถก่อเหตุได้ รวมถึงต้องการแก้แค้นให้กับ 1 ในคนร้ายที่ถูกวิสามัญจากเหตุปล้นเต็นท์รถ

พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กล่าว่าความคืบหน้าคดีเหตุคนร้ายปล้นเต็นท์รถมือสอง นั้นทางตำรวจภาค 9 เป็นเจ้าของคดีและมีความคืบหน้าไปมาก ส่วนหน่วยในพื้นที่จะคอยช่วยเหลือในการสืบสวนติดหาตัวกลุ่มผู้มีส่วนร่วม ล่าสุดชุดคลี่คลายคดี ฉก.ปัตตานี พร้อมชุดนิติวิทยาศาสตร์ และชุดดีเอสไอ ได้เข้าตรวจสอบบ้านต้องสงสัยหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นบ้านของนักการเมืองท้องถิ่น และยังเป็นครูสอนอยู่ของโรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองปัตตานี โดยข้อมูลการติดตามตัวมาจากการแจ้งเบาะแสของผู้หวังดีว่า บุคคลดังกล่าวมีความสนิทสนมและมักเดินทางไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้ง จึงได้ขอเข้าตรวจเก็บดีเอ็นเอ พร้อมทั้งเชิญตัวไปซักถามขยายผลที่ศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขั้นต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จัก หรือไม่มีความสนิทเป็นการส่วนตัวกับ นายนูร์ฮาซัน ที่ถูกวิสามัญแต่อย่างใด

พล.ต.จตุพร ผบ.หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กล่าว่าทั้งนี้โดยรวมผู้ที่ถูกเชิญตัวเข้ากระบวนการซักถามขยายผลรวมแล้ว 3 ราย และอยู่ระหว่างประสานให้ครูสอนศาสนาโรงเรียนปอเนาะที่นายนูร์ฮาซัน คนร้ายที่ถูกวิสามัญมาให้ข้อมูลถึงพฤติกรรม รวมถึงตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงในระดับใดหรือไม่อีก 2 ราย ทั้งนี้หนึ่งในผู้ที่ถูกเชิญตัวมายังศูนย์ซักถามยังคงให้ความร่วมมือและยอมเปิดปากรับสารภาพมีส่วนรู้เห็นว่าจะมีการก่อเหตุและยินยอมให้ความร่วมมือโดยเฉพาะเบาะแสรายชื่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่ม ทั้งนี้ในส่วนของผู้ที่ถูกเชิญตัวมาทั้งหมดหากตรวจสอบแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อการกักตัวตามกฎอัยการศึกครบ 7 วัน ก็จะให้กลับบ้าน พร้อมการช่วยเหลือเยียวยาปัจจัยต่างๆ พร้อมไปกับการเสริมสร้างความเข้าใจ

 

ที่มา : มติชนออนไลน์