พยัคฆ์ไพร-กอ.รมน.-ตำรวจ จับ “เสี่ยยุทธ์” ปลอมเอกสารค้าไม้หายากข้ามชาติ ประเทศเสียหายนับร้อยล้าน คาดขรก.ร่วมเป็นใจ

วันที่ 4 ธันวาคม นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.4 กอ.รมน) โดยการอำนวยการของ นายอรรถพล เจริญชันษา ว่าที่อธิบดีกรมป่าไม้ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป) ให้ชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานต่างที่เกี่ยวข้องดำเนินการเชิงรุกกับกลุ่มขบวนการลักลอบทำไม้มีค่าหายากเพื่อส่งออกไปต่างประเทศในรูปแบบต่างอย่างต่อเนื่อง นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร ศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 สระบุรี สนธิกำลังร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ตำรวจภูธรภาค 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ขยายผล ไม้สัก 42 ท่อนในโรงงานแปรรูปไม้อ่างทอง ที่เจ้าหน้าที่อายัดไว้ก่อนหน้านี้

นายชีวะภาพกล่าวว่า หลังพบข้อมูลสำคัญว่า ไม้สักทั้งหมดถูกปลอมแปลงเอกสาร และมีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ โดยก่อนหน้านี้ ศปก.พป.ได้ตรวจยึดไม้ประดู่จำนวนมากบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ เตรียมส่งขายต่างประเทศ ผ่านท่าเรือคลองเตย กรุงเทพมหานคร ภายหลังชุดปฎิบัติการขยายผลจนสืบทราบข้อมูลเชิงลึกว่า มีการปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ นำเอาไม้ผิดกฎหมายมาสวมเพื่อส่งออก และได้ขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนสามารถสืบทราบหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการคือ นายชัยยุทธ์ จำปากอ หรือในวงการค้าไม้รู้จักในนาม เสี่ยยุทธ์ ซึ่งเป็นพ่อค้าไม้ส่งขายตามโรงเลื่อยต่างๆ ทั่วประเทศ และเป็นผู้นำไม้สัก 42 ท่อน พร้อมเอกสารที่ถูกปลอมแปลงมาขายให้โรงงานแปรรูปไม้อ่างทอง จากการสอบสวนเบื่องต้นให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนทำเอกสารปลอมชุดนี้ เจ้าหน้าจึงจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ในฐานความผิดร่วมกันครอบครองไม้สักโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ข้อมูลการสืบสวนพบว่า คดีนี้มีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน และคาดว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

“จากการสอบสวนนายชัยยุทธ์ยังให้การภาคเสธว่าไม่ทราบและไม่รู้ว่าเป็นเอกสารปลอมและไม้พร้อมเอกสารดังกล่าว ได้ซื้อมาจาก นายเติ้ล (นามสมมุติ) และนายอ้วน พร้อมกลุ่มขบวนการอีก2คนซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีไม้สักท่อนที่ยังไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารทางราชการปลอมร่วมกับกลุ่มขบวนการที่ยังจับกุมไม่ได้ส่งสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองอ่างทอง เพื่อดำเนินการต่อไป” นายชีวะภาพกล่าว

ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กล่าวว่า สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มขบวนการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกลัวขบวนการลักลอบทำไม้มีค่าข้ามชาติชัดเจน โดยเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2560 ชุดปฏิบัติการ ศปก.พป. นำโดยนายอรรถพล ได้ร่วมกับ กรมศุลกากร ตรวจยึดดำเนินการคดีการลักลอบขนไม้ประดู่แปรรูปล็อตใหญที่พยายามนำออกไปต่างประเทศโดยการสำแดงเท็จ และทาง กก1.บก.ปทส.ได้เข้าร่วมทำคดีกับชุดปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า โดยชุดพยัคย์ไพร และ ศปป 4.กอ.รมน.ได้ใช้เวลานับปีขยายผล พบว่ามีกลุ่มขบวนการปลอมแปลงเอกสาร (สป15) ที่ออกจากท้องที่ จ.เลย โดยจากการขยายผลพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องในกลุ่มคือเสี่ย ”ยุทธ์” หรือนายชัยยุทธ์ จำปากอ บุคคลที่ถูกจับกุมได้ในวันนี้เกี่ยวข้อง

นายชีวะภาพกล่าวว่า คณะเจ้าหน้าที่จึงขยายผลติดตามมาตลอดจนในวันนี้ คณะเจ้าหน้าที่ได้ติดตามสืบทราบว่า เสี่ยยุทธ์ได้นำไม้พร้อมเอกสารที่ปลอมแปลงนำไม้มาเสนอขายให้โรงเลื่อยดังกล่าว คณะเจ้าหน้าที่จึงวางแผนปิดล้อมจับกุม ได้พร้อมไม้ของกลางและเอกสารทางราชการปลอมดังกล่าวได้ กลุ่มขบวนการนี้ น่าจะกระทำการในลักษณะนี้มานานโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายสร้างความเสียหายให้กับทางราชการตลอดมามากกว่า 100 ล้านบาทแล้ว และน่าจะมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐบางหน่วยเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะเอกสารดังกล่าวสามารถทำออกมาใกล้เคียงเหมือนกับเอกสารที่ทางราชการออกมีการดึงข้อมูลของทางราชการออกมาได้ และมีเพียงข้อแตกบางจุดเช่นการใช้ตรายางที่สร้างปลอมขึ้นมาเท่านั้น และภายหลังจะนำไม้ที่ได้มาบรรจุใส่ตู้คอนเทนเนอร์ลักลอบไปต่างประเทศ คณะเจ้าหน้าที่จะขยายผลติดตามผู้ที่เกี่ยวมาดำเนินคดีต่อไปให้ถึงที่สุด

 

ที่มา : มติชนออนไลน์