“ฟิล์ม-รัฐภูมิ” ขอบคุณศาล บอกพ่อแม่ช็อกสื่อตีข่าวติดคุก ยันคดีไม่มีผลการเมือง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 ธันวาคม ที่ห้องพิจารณา 914 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษา ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด โดยนายศราวุฒิ นนทะภา กรรมการผู้มีอำนาจ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ อายุ 33 ปี พระเอกนักแสดงชื่อดัง นายธเนศ จัตวาพรพานิช อายุ 43 ปี และนายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ อายุ 38 ปี ในฐานะกรรมการบริษัท ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ตามลำดับ ในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันประกอบธุรกิจ บัตรชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาต” พิพากษา ปรับบริษัท เพย์ออล ฯ จำเลยที่ 1 จำนวน 2 แสนบาท ส่วนจำเลยที่ 2-4 จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 1 แสนบาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ บริษัท เพย์ออล ฯ จำเลยที่ 1 จำนวน 1 แสนบาท คงจำคุกคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 5 หมื่นบาท พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะฯแล้ว เห็นว่า พวกจำเลยมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี ให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติเป็นเวลา 1 ปี และให้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

ฟิล์ม-รัฐภูมิ พระเอกนักแสดงชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ขอบคุณศาลมากที่เมตตาและให้ตนได้กลับมาพัฒนาธุรกิจและแอปพลิเคชั่น เพย์ออล ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ก็ไม่มีอะไรเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2559 ซึ่งพยายามทำทุกอย่างให้ถูกต้อง เพราะสิ่งที่ตนเองตั้งใจไว้ คือ จะดำเนินธุรกิจให้ถูกต้องเสมอ แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้พาดหัวข่าวที่ออกไปอาจจะมองว่าตนทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า จริงๆ แล้วไม่ใช่ เป็นเรื่องที่เรารู้เท่าไม่ถึงการณ์มากกว่า ซึ่งได้ดำเนินธุรกิจก่อนที่จะได้รับใบอนุญาต แล้วตอนนี้ก็กลับมาแก้ไขและได้รับใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว และก็ทำธุรกิจตามปกติ สำหรับคำตัดสินก็เป็นตามข้อบังคับของศาล ซึ่งตนก็ชำระค่าปรับและจะบำเพ็ญประโยชน์ภายใน 1 ปี เดี๋ยวต้องไปดูว่าจะบำเพ็ญประโยชน์อะไร ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ แต่ก็เป็นสิ่งที่ชอบและตนทำเป็นประจำอยู่แล้ว และให้เป็นตัวอย่างว่าการทำธุรกิจนั้นเราต้องศึกษาให้ถ่องแท้ก่อน ถ้าเกิดข้อผิดพลาดก็ไม่ต้องไปกลัว เพราะต้องดูที่เจตนาว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ยินดีน้อมรับและแก้ไข เพื่อให้เป็นแบบอย่างกับนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่กำลังจะเริ่มสตาร์ตธุรกิจ ดูเป็นแบบอย่าง ซึ่งตั้งแต่เปิดดำเนินธุรกิจ เพย์ออล มาตลอดระยะเวลา 2 ปี ก็ไม่ปรากฏว่ามีผู้เสียหายแม้แต่รายเดียว และธุรกิจเราก็ยังดำเนินการตามปกติอยู่ แต่ว่าส่วนใดที่ไปข้องเกี่ยวกับแบงก์ชาติ เราก็ได้หยุดดำเนินการในส่วนนั้น แล้วก็กลับมาดำเนินธุรกิจของบริษัท เพย์ออล เกี่ยวกับการขายของออนไลน์ อย่างถูกต้อง ตอนนี้ก็ดำเนินธุรกิจไปได้ด้วยดี ค่อนข้างประสบความสำเร็จ แม้อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจในช่วงแรก ลูกค้าขาดความเชื่อมั่น แต่เรายืนหยัดว่าเป็นเรื่องปกติของการดำเนินธุรกิจที่จะต้องประสบอยู่แล้ว แต่ในที่สุดเราก็สามารถพิสูจน์ให้ลูกค้าเห็นว่า เราดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง และเราก็ผ่านมาได้

“ไม่มีอะไร ผมโดนแค่ค่าปรับแล้วก็จบ แต่บอกเลยว่าตกใจเหมือนกัน เพราะตอนอยู่ในศาลเขาห้ามใช้โทรศัพท์ ตอนกำลังจะไปเสียค่าปรับ ทนายความยื่นโทรศัพท์ให้ เห็นข่าวลงเยอะมากเลยว่าฟิล์มติดคุกไปแล้ว 1 ปี พ่อแม่ผมโทรมาเป็น 100 สาย ร้องห่มร้องไห้ ซึ่งอันนี้ก็โหดเหมือนกัน แต่เราก็เข้าใจสื่อ อยากให้ลงหัวข้อข่าวให้ถูกต้องหน่อย คือพ่อแม่ผมและญาติผมช็อกกันหมดเลยว่าผมติดคุก ซึ่งความจริงคดีแบบเนี่ยมันไม่ถึงขั้นนั้น ศาลรอลงอาญา เสียค่าปรับแล้วก็จบเรียบร้อย” ฟิล์ม รัฐภูมิเปิดเผย

เมื่อถามว่าจะกระทบเกี่ยวกับทางด้านการเมืองที่กำลังจะสมัคร ส.ส.และโฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไทยหรือไม่ ฟิล์ม-รัฐภูมิ กล่าวว่า ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ไม่มีผลเพราะว่าเป็นเรื่องบริษัท ซึ่งยืนยันว่ายังคงสมัครรับเลือกตั้งพรรคพลังท้องถิ่นไทย ตั้งใจว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขต เพราะว่าตนโตที่ดินแดง และเติบโตที่ห้วยขวาง จึงอยากจะลงพื้นที่ดินแดง ห้วยขวาง เรามีพรรคพวก ครูบาอาจารย์ เพื่อนๆ เยอะมาก และรู้จักคุ้นเคยอยู่กับประชาชนพื้นที่นี้มาทั้งชีวิตก็อยากจะพัฒนาให้เจริญขึ้น

 


ที่มา : มติชนออนไลน์