นพ.สุธีร์ รัตนะมงคลกุล ผู้ประสานงาน ศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ (CHES) เปิดเผยว่า CHES ร่วมกับที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย (ทปสท.) ที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการมหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่ง (ทป.มรภ.) และกลุ่มส่งเสริมธรรมาภิบาลมหาวิทยาลัย (สธม.) แถลงการณ์ฉบับที่ 4เรื่อง แถลงการณ์จุดยืนต่อประกาศ ป.ป.ช. ในการบังคับใช้กฎหมายแสดงบัญชีทรัพย์สินกับกรรมการสภามหาวิทยาลัย ขอสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อประกาศ ป.ป.ช. ทั้งฉบับที่ 1 และ 2 ที่กำหนดให้กลุ่มบุคคลที่เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยทุกคนต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและเปิดเผยสู่สาธารณะ โดยอนุโลมให้สามารถเริ่มมีผลบังคับใช้ในต้นเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น เนื่องจากทาง ป.ป.ช. ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องและเป็นไปตามข้อบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ซึ่งเรียกว่ากฎหมายฉบับปราบโกง
นพ.สุธีร์ กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องไปยัง พลเอก ประยุทธ์ จันทน์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะไม่มีการผ่อนผันหรือดำเนินการในทางหนึ่งทางใดอีกอันจะส่งผลต่อการยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนประกาศ ป.ป.ช. ฉบับที่ 1 และ 2 ซึ่งจะทำให้ประชาชนและสังคมอาจมีความเคลือบแคลงสงสัยในท่าทีและจุดยืนของรัฐบาลชุดนี้ที่มุ่งมั่นจะป้องปราม ไม่ให้เกิดการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลมาโดยตลอด ทั้งนี้มวลเหล่าประชาชนชาวไทยต้องการเห็นมาตรการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบที่เข้มแข็ง เพื่อรับประกันถึงความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในวงราชการในอนาคต ทางเครือข่ายฯ ขอยืนยันเรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนประกาศ ป.ป.ช. ทั้งสองฉบับนี้โดยเคร่งครัด และจะต้องไม่มีความพยายามละเมิดกฎหมายฉบับปราบโกงนี้อีกต่อไป
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
ที่มา มติชนออนไลน์