อย.เตรียมออกประกาศ 8 ฉบับล้อตามพ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ผ่านกัญชาทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการออาหารและบา (อย.) กล่าวว่า หลังจากนี้อย.ต้องมีการออกกฎหมายลูก และประกาศกระทรวงสาธารณสุขตามมาอีกประมาณ 8 ฉบับเพื่อเสนอคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เพื่อเสนอต่อรมว.สาธารณสุขพิจารณาประกาศใช้ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จภายในเดือน มี.ค.2562 เบื้องต้นจะมีเรื่องของการปลูกกัญชา ต้องเป็นหน่วยงานของรัฐ หากเป็นเอกชนก็ต้องทำร่วมกับรัฐ รวมถึงวิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ โดยการปลูกจะต้องได้มาตรฐานการปลูกสมุนไพรจีซีพี (GCP) แต่กัญชาต้องมีการเพิ่มมาตรฐานขึ้นอีก เพราะอย่างที่ทราบว่ากัญชาเป็นพืชที่ดูดซับสารพิษ โดยเฉพาะกลุ่มโลหะหนัก ทั้งนี้การปลูกในพื้นที่ใดก็ต้องไปขออนุญาตจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นคนพิจารณาอนุญาต

นพ.สุรโชค กล่าวว่า นอกจากนี้จะมีเรื่องการใช้กัญชาทางการแพทย์ ซึ่งใครจะใช้ได้บาง ใช้โรคอะไร รวมถึงการใช้ในส่วนของการแพทย์แผนไทย ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ซึ่งใช้ได้ทุกส่วนของกัญชาตามสูตรของการรักษาแพทย์แผนไทย แต่ทางกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกต้องไปออกหลักเกณฑ์มาให้ชัดเจนว่าใครใช้ได้บ้าง รวมถึงมีการอบรมการใช้ เพราะเรียนว่าถึงแม้ว่าจะมีอยู่ในภูมิปัญญา แต่ก็ต้องทบทวน อีกประเด็นคือเรื่องการนำเข้า และส่งออกผลิตภัณฑ์จากกัญชา ต้องมีการควบคุม เนื่องจากยังถือเป็นยาเสพติดประเภท 5 ไม่ได้เปิดเสรี ต้องมีการควบคุมเหมือนมอร์ฟีน การนำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาเข้ามาในประเทศต้องได้รับอนุญาต เช่นผู้ป่วยต้องมีใบรับรองแพทย์ และนำเข้ามาในปริมาณที่เพียงพอต่อการใช้รักษาโรคตามระยะเวลาหนึ่ง หากหิ้วมาโดยไม่ขออนุญาต อาทิ เป็นน้ำอัดลม อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของกัญชาจะถือว่าผิดกฎหมายทั้งสิ้น มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล แต่ถ้าใครที่ครอบครองเพื่อจำหน่ายจะถือว่าผิดเต็มๆ มีโทษจำคุก 2-15 ปี

เมื่อถามว่า เนื่องจากมีการคลายล็อคให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ ตอนนี้สามารถพูดหรือโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กัญชาได้ หรือไม่ รองเลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า ตามกฎหมายอย.ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณายาอยู่แล้ว ไม่ว่าช่องทางใด ยกเว้นว่าเป็นการอธิบายเกี่ยวกับวิธีการใช้ยาให้กับแพทย์ผู้ใช้ได้ สำหรับกรณีข้อกังวลว่าเมื่อกฎหมายเปิดช่องแล้วแต่การพัฒนากัญชาของไทยยังไม่แล้วเสร็จ จะกระทบกับการเข้าถึงผลิตภัณฑ์กัญชาจากต่างชาติที่มีราคาแพงหรือไม่นั้น เรียนว่ากัญชาก็เหมือนมอร์ฟีน บริษัทต่างประเทศสามารถมาขอขึ้นทะเบียนการขายในประเทศไทยได้ แต่การตัดสินใจซื้อเป็นของไทย จะซื้อก็ได้ ไม่ซื้อก็ได้ เพราะไทยเองก็มีการทำน้ำมันกัญชากันอยู่ซึ่งคาดว่าน่าจะเพียงพอต่อการใช้ อย่างมอร์ฟีนที่ขึ้นทะเบียนขายในไทยได้ เราเองก็แค่ซื้อสารตั้งต้นมาแล้วให้องค์การเภสัชกรรมและบริษัทเอกชนของไทยบางแห่ง เป็นผู้ผลิตใช้ในประเทศ

 

ที่มา : มติชนออนไลน์