“ขนส่ง” ย้ำรถโดยสารทุกคันต้องปลอดภัย คนขับรถไร้สารเสพติด

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ กรมการขนส่งทางบกได้กำชับสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ ดูแลประชาชนทุกคนตลอดการเดินทางช่วงปีใหม่ตั้งแต่ต้นทาง ระหว่างทาง จนถึงจุดหมายปลายทาง ตามนโนบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่ต้องการให้ประชาชนเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย โดยในช่วงของการเดินทางกลับหลังจากเทศกาลปีใหม่ ให้เข้มงวดตรวจความพร้อมของรถโดยสารทุกคันก่อนออกเดินทาง ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอด 196 แห่งทั่วประเทศ หากพบข้อบกพร่องที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยสั่งเปลี่ยนรถทันที ด้านพนักงานขับรถทุกคนไร้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ 100% เฉพาะวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ตรวจเข้มข้นรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถโดยสาร ทุกคัน ทุกเส้นทาง ทุกสถานี จำนวน 17,980 คัน แบ่งเป็นรถหมวด 2 (กรุงเทพ-ต่างจังหวัดทุกเส้นทาง) จำนวน 8,556 คัน และรถหมวด 3 (เส้นทางระหว่างจังหวัด) จำนวน 9,424 คัน พบการฝ่าฝืนนำรถโดยสารที่ระบบ GPS ไม่ทำงานมาให้บริการ จึงสั่งเปลี่ยนรถทันทีจำนวน 1 คัน ส่วนการตรวจความพร้อมพนักงานขับรถจำนวน 17,980 ราย มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติตามระเบียบและข้อกำหนดเกี่ยวกับความปลอดภัยในการให้บริการทุกราย ส่งผลให้การดำเนินการตรวจเข้มข้นรถโดยสารและพนักงานขับรถช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 27 – 31 ธันวาคม 2561 จากจำนวนรถโดยสารทั้งสิ้น 94,492 คัน ดำเนินการให้เปลี่ยนรถโดยสารแล้วจำนวน 4 คัน โดยยังไม่มีการสั่งเปลี่ยนพนักงานขับรถ

นายพีระพลกล่าวว่า สำหรับรถโดยสารระยะทางไกลต้องเข้ารับการตรวจความพร้อมที่จุดตรวจระหว่างทางบนถนนสายหลัก 18 จุด (17 จังหวัด) ได้แก่ กำแพงเพชร พิษณุโลก ลำปาง นครราชสีมา 2 แห่ง บุรีรัมย์ ขอนแก่น ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา และระยอง เพื่อตรวจสอบความอ่อนล้า เวลาการทำงานซึ่งจะขับรถติดต่อกันได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมงและต้องพักไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง จึงจะขับต่อได้อีกไม่เกิน 4 ชั่วโมง ต้องเปลี่ยนคนขับทันที เพื่อป้องกันความอ่อนล้า ง่วง หลับใน ซึ่งเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุร้ายแรงในช่วงท้ายของการเดินทางเทศกาลปีใหม่ พร้อมนี้กรมการขนส่งทางบกได้มอบอุปกรณ์ป้องกันการหลับในให้กับคนขับรถโดยสารสาธารณะ สำหรับแขวนไว้ที่หูและจะมีเสียงเตือนเมื่อสัปหงกศีรษะเอียงมาด้านหน้า ทำให้รู้สึกตัวก่อนเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบก โดยศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ส่วนกลางและศูนย์ฯ GPS แต่ละจังหวัด จะติดตามรถโดยสารทุกคันผ่านระบบ GPS Tracking ตลอด 24 ชั่วโมง และบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในลงพื้นที่ตรวจสอบและยับยั้งพฤติกรรมเสี่ยงทันที โดยเฉพาะการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด ในส่วนของผู้ประกอบการต้องควบคุมการให้บริการ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการเดินรถ ห้ามเก็บอัตราค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด ห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งโดยเด็ดขาด ให้เดินรถเริ่มต้นออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารและต้องส่งผู้โดยสารถึงที่หมายด้วยความสะดวกและปลอดภัย กำชับพนักงานขับรถให้ใช้ความระมัดระวังในการขับรถผ่านเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยงที่อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน หากประชาชนพบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะร้องเรียนได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 (เฉพาะกิจ) ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร หรือสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

 


ที่มา มติชนออนไลน์