ปภ.สำรวจความเสียหาย-ให้การช่วยเหลือ หลัง ‘ปาบึก’ ถล่มต้องอพยพปชช.กว่า 3หมื่นคน

เมื่อวันที่ 5 มกราคม กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานผลกระทบจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “ปาบึก” 8 จังหวัดภาคใต้ อพยพประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัด 31 อำเภอ 240 จุดรวม 34,089 คน ภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีฝนตกเล็กน้อยในพื้นที่ ซึ่ง กอปภ.ก.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีปภ. ผู้อำนวยการกลาง กอปภ.ก. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 มกราคม อิทธิพลจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก พายุลมแรง คลื่นซัดฝั่ง ในพื้นที่ภาคใต้ รวม 8 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช เกิดวาตภัยในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ปากพนัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.หัวไทร อ.ขนอม อ.สิชล และ อ.ท่าศาลา รวมถึงเกิดน้ำหลากที่ อ.ฉวาง และ อ.พิปูน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง และมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่ม อ.ร่อนพิบูลย์ ทั้งนี้ ได้อพยพประชาชนในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ปากพนัง อ.ท่าศาลา อ.สิชล อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.หัวไทร อ.ขนอม และ อ.ลานสกา

จากการสำรวจความเสียหายในเบื้องต้น เสาไฟฟ้าล้ม 32 ต้น ระบบสื่อสารพื้นฐานใช้งานได้แล้ว มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ ที่ อ.ปากพนัง 1 ราย และอ.เฉลิมพระเกียรติ 1 ราย สถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีฝนตกในพื้นที่ ส่วน จ.ปัตตานี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอยะหริ่ง รวม 2 ตำบล คือ ต.แหลมโพธิ์ และ ต.ตะโละกาโปร์ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 25 หลัง มีผู้เสียชีวิตจากเหตุเรืออับปางในเขต อ.ยะหริ่ง 1 ราย สูญหาย 1 ราย ทั้งนี้ ได้อพยพประชาชนใน 3 อำเภอ คือ อ.ยะหริ่ง อ.หนองจิก และ อ.เมืองฯ รวม 22 จุด 1,906 คน ปัจจุบันท้องฟ้าเปิด

นายชยพล กล่าวต่อว่า จ.สุราษฎร์ธานี เกิดน้ำหลากท่วมในเขต อ.กาญจนดิษฐ์ และอ.ดอนสัก ทั้งนี้ ได้อพยพประชาชนใน 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ดอนสัก อ.พุนพิน อ.เกาะสมุย อ.เกาะพะงัน อ.ท่าชนะ อ.เมืองฯ และ อ.ท่าฉาง รวม 27 จุด 1,661 คน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันมีฝนเล็กน้อย ขณะที่ จ.สงขลา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองสงขลา อ.ควนเนียง และอ.รัตภูมิ เสาไฟฟ้าล้ม 17 ต้น หอกระจายข่าวเสียหาย 1 แห่ง บ้านเรือนเสียหายจากคลื่นซัดฝั่ง 475 หลัง ทั้งนี้ ได้อพยพประชาชนในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.สิงหนคร อ.สทิงพระ อ.ระโนด อ.เทพา อ.กระแสสินธุ์ และอ.เมืองฯ รวม 56 จุด 5,622 คน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันไม่มีฝนตก ส่วน จ.ชุมพร ได้อพยพประชาชนในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ละแม อ.หลังสวน อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.เมืองฯ และอ.ปะทิว รวม 39 จุด 2,121 คน ไม่มีรายงานความเสียหาย ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

ปัจจุบันมีฝนตกเล็กน้อย ส่วน จ.ยะลา ได้อพยพประชาชนในพื้นที่อำเภอเมืองยะลา รวม 1 จุด 11 คน ไม่มีรายงานความเสียหาย ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันมีฝนตกเล็กน้อย จ.พัทลุง ได้อพยพประชาชนในพื้นที่อำเภอควนขนุน รวม 1 จุด 50 คน และจ.นราธิวาส เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนราธิวาส อ.บาเจาะ อ.ยี่งอ รวม 8 ตำบล 59 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 1,422 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันไม่มีฝนตก

นายชยพล กล่าวว่า ทั้งนี้ กอปภ.ก โดยปภ. ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย สนับสนุนการระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงดูแลชีวิตความเป็นอยู่และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ พร้อมทั้งแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

นอกจากนี้ ได้กำชับจังหวัดที่สถานการณ์อุทกภัยเริ่มคลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการ หากมีประกาศแจ้งเตือนอพยพ ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์