นายกฯย้ำประเทศต้องสงบเรียบร้อยที่สุดเพื่อพระราชพิธี-เลือกตั้ง บอกพูดจนเหนื่อยเต็มทีแล้ว ยันไม่ได้ต้องการยืดเยื้อ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 10 มกราคม ที่อาคารชาเลนเจอร์ อาคาร 2 อิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในงาน “มหกรรมการแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง” นายกฯขึ้นเวทีกล่าวช่วงหนึ่งว่า
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
นายกฯกล่าวว่า เราต้องสนใจการค้าโลก คิดอย่างเดิมไม่ได้ การตั้งราคายังได้แค่การตั้งราคาประกันราคาข้าว จำนำไว้ในยุ้งฉางและต้องเฉลี่ย 3 ปีหารกันออกมาถึงจะตั้งราคาครั้งแรกได้ มีกติกาอยู่ และเมื่อราคาสูงขึ้นในตลาดโลกถึงจะดูว่าจะขึ้นราคาเท่าไหร่ ไม่ใช่ขึ้นสุดโต่ง อย่าให้เขาหลอกแบบนี้ เราต้องเรียนรู้อย่าคิดว่าใครพูดอะไรดีหมด เมื่อวานขอ 1 พัน 2 พันเพิ่มในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ต้องดูหลักเกณฑ์ด้วย นี้แหละค่านิยมคนไทยว่าเขาไม่ได้เพราะเขาไม่มีรายได้ ดูถูกเขาไม่ได้ ต้องช่วยสร้างความเข้าใจตรงนี้ด้วย และที่ไปเกี่ยวข้าว ดำนา เพราะต่างประเทศเขาสนใจเรื่องนี้ และเพื่อให้รู้ว่ายากแค่ไหน รวมถึงการทอผ้า รายได้จากการท่องเที่ยว 40 ล้านคน ต้องไปไล่ดูเงินไปที่ไหน ไม่ได้มาอยู่ที่รัฐบาล แต่อยู่ที่ประชาชนและภาคเอกชน ธุรกิจ ร้านค้า และท้องถิ่นได้ซักเท่าไหร่จากตรงนั้น รัฐบาลได้จากภาษีเท่านั้นเอง หลายคนไปหาเสียงว่า นักท่องเที่ยวมา 40 ล้านคนมีเงินเป็นแสนล้านบาท รัฐบาลเอาไปใช้ไหนหมด รัฐบาลได้ไม่ถึงแสนกว่าล้าน ไม่ได้มากได้ตามภาษีเท่านั้น ทำอะไรให้มั่นคงอย่าทำร้ายประเทศตัวเอง วันนี้มีการผลักดันกฎหมายเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้กองทุนหมู่บ้านมีความเข้มแข็ง เป็นสถาบันการเงินของชุมชน ไม่ใช่ยิ่งเติมยิ่งหายนั้นหมายความว่าล้มเหลว
“สิ่งสำคัญที่สุด คือการเลือกตั้งต้องดำเนินการให้สงบเรียบร้อยที่สุด และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งบ่ายวันที่ 10 มกราคม จะมีการประชุมคณะกรรมการเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นความศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินนี้ บ้านเมืองนี้ เป็นจารีตประเพณีทุกคนต้องช่วยกัน อย่าเอาอะไรมาพันกันทั้งสิ้น เป็นเรื่องการทำงานที่ต้องทำให้ได้เพื่อความสงบเรียบร้อย ทั้งการเลือกตั้ง พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เรื่องการขับเคลื่อนกองทุนและงานอื่นๆ ทั้งหมด ต้องไปด้วยกันได้ อะไรที่มีปัญหาให้ปรับแก้กันไป ไม่ใช้มันจะเป็นจะตายกันหมด และผมไม่ได้ต้องการจะยืดเยื้อเพราะผมก็เหนื่อยเต็มที ที่ต้องมาพูดแบบนี้ เราต้องทำวันนี้เพื่อลูกหลานทุกอย่างต้องรักษาสืบไปให้เขาด้วย จำคำตนไว้แล้วกัน คิดแบบนี้มาตลอด ถ้าเราไม่ห่วงเขาแบบนี้จะหายไปทั้งหมดในสมัยเราและวันหน้าเขาจะลำบากยิ่งกว่าเรา” นายกฯกล่าว
