ส.ต้านโลกร้อนร้องศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉิน สั่งนายกฯแก้วิกฤตฝุ่นกรุงเทพใน 3 วัน

เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนนำโดยนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคม พร้อมด้วย ประชาชนในเจตจัตุจักร บางเขน ลาดพร้าว ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานรวม 5 ราย ยื่นฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต่อศาลปกครองกลางกรณีละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ตามพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535 จนเกิดวิกฤตการสะสมของฝุ่นละอองชนาดเล็กหรือ PM 2.5 เป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนมากเจ็บป่วยและก่อปัญหาด้านสุขภาพตามมามากมาย จึงขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งให้นายกฯใช้อำนาจตามมาตรา 9 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันควบคุม ระงับหรือบรรเทาอันตรายและความเสียหายที่เกิดจากปัญหาฝุ่นละอองดังกล่าวอย่างทันท่วงทีภายใน 3 วันนับแต่ศาลมีคำสั่ง และให้นายกฯสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดยึด “กำแพงเพชรโมเดล” เป็นตัวอย่างในการการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ ด้วยการสั่งห้ามเผาไร่อ้อยเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิต ห้ามเผาซังนาข้าวหลังเก็บเกี่ยวอย่างเด็ดขาด รวมทั้งสั่งให้ผู้ว่ากทม.ออกมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการแพร่กระจายฝุ่นละอองขนาดเล็ก พร้อมเพิ่มพื้นที่ปลูกต้นไม้เพื่อดูดซับฝุ่นพิษ และห้ามมีการตัดต้นไม้ที่มีอยู่บริเวณริมทางเท้า ริมถนน โดยเด็ดขาด เว้นแต่เป็นการตัดแต่งเพื่อความสวยงามหรือป้องกันอุบัติภัยเท่านั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นละอองถือเป็นปัญหาวิกฤตสำคัญที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งแต่รัฐบาลโดยเฉพาะนายกฯและผู้เกี่ยวข้องตามละเลยเพิกเฉยต่อการเตรียมการป้องกันและแก้ปัญหา จนทำให้ประชาชนจำนวนมากเจ็บป่วยด้วยโรคเกี่ยวทางเดินหายใจ กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศมูลค่ากว่า 2,600 ล้านบาท จะให้ประชาชนมานั่งรอการก่อสร้างรถไฟฟ้าเสร็จ 3 ปีแล้วปัญหาจะคลี่คลายนั้น ไม่มีใครรอได้ ดังนั้นจะต้องมีการประกาศให้กรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นเขตควบคุมมลพิษโดยเด็ดขาด และนายกฯต้องให้ความใส่ใจไม่ใช่นิ่งเฉยเดินสายประชุมครม.ต่างจังหวัด

 


ที่มา  มติชนออนไลน์