เมื่อวันที่ 29 ม.ค. เวลา 14.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ถึงกรณีที่ ครม.มีมติเรื่องเขื่อนวังหีบ ไปก่อนหน้านี้ ทำให้มีชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยมาเรียกร้องให้ยุติหรือชะลอโครงการ และตั้งคณะกรรมการที่มีประชาชนมีส่วนร่วม ศึกษาผลกระทบนั้น
นายกฯ กล่าวว่า โครงการเขื่อนวังหีบนี้เป็นการรับฟังจากความคิดเห็นประชาชน มันก็มีคนเห็นด้วยมากกว่าคนที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งคนไม่เห็นด้วยนั้นก็อาจจะแรงเพราะได้รับข้อมูลกันไปมาไปเข้าถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนบ้าง NGO บ้าง ซึ่งรัฐบาลจะหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
“วันนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงออกไป ซึ่งเราต้องมองประโยชน์ที่ได้รับกลับมาว่ามีประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่แค่ไหน ส่วนน้อยอาจจะเสียประโยชน์แล้วเราจะดูแลเขาอย่างไร”
“เขื่อนเป็นส่วนสำคัญในการเก็บกักน้ำ กระจายน้ำยังพื้นที่ต่างๆ ถ้าหากไม่มีเขื่อนก็จะควบคุมบริหารจัดการน้ำไม่ได้อย่าง 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลก็สามารถบริหารจัดการน้ำได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเห็นว่าไม่มีน้ำท่วมขนาดหนัก รวมถึงการเกิดอุทกภัยต่างๆ รัฐบาลก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันเวลา ทั้งการช่วยเหลือประชาชนที่เกิดความเสียหายจากพายุปาบึก ส่วนหนึ่งรัฐบาลได้เร่งรัดเรื่องการซ่อมบ้าน ดูแลเยียวยา โดยการขออนุมัติงบประมาณไปแล้วจำนวนหนึ่ง เพื่อเยียวยาครอบครัวละ 3 พันบาท” นายกฯกล่าวและว่า
ส่วนเรื่องงบประมาณ 130 กว่าล้านที่ได้รับการบริจาคมาอย่าคิดว่าเงินส่วนนี้จะมาทบอีกรอบกับส่วนหนึ่งที่รัฐบาลให้ไปแล้ว เนื่องจากว่ารัฐบาลมีการใช้จ่ายงบประมาณอีกหลายส่วน ซึ่งเงินจำนวนนี้บางส่วนเบิกราชการไม่ได้ จึงจำเป็นต้องใช้งบบริจาค ซึ่งขณะนี้กำลังคัดกรองอยู่
“ขอให้ไว้ใจเงินบริจาคจำนวนนี้อยู่ในบัญชีทั้งหมดไม่มีใครเอาไปใช้ได้ และไม่ได้อยู่ที่ใครทั้งสิ้น”